สวัสดีค่ะว่าที่คู่บ่าวสาวที่กำลังเตรียมตัวจัดงานแต่งงานในปี 2024 วันนี้มานิตามีเคล็ดลับดี ๆ มาช่วยคู่บ่าวสาวในการเตรียมตัวอีกเช่นเคย ซึ่งวันนี้มานิตามี “เคล็ดลับที่ต้องเตรียมก่อนถ่าย พรีเวดดิ้ง” ให้รูปออกมาสวยปังแบบสุด ๆ เพราะรูป ถ่ายพรีเวดดิ้ง ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่คู่บ่าวสาวต้องทำก่อนเข้าพิธีวิวาห์ เพื่อที่จะได้มีรูปสวยๆโมเมนต์ที่ดีๆ ไว้โชว์หรือตั้งเป็น Props ให้แขกถ่ายรูปหน้างานรวมทั้งอาจนำรูปมาทำการ์ดแต่งงานและที่สำคัญก็เพื่อบันทึกภาพสวย ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำ เพราะวันงานเราอาจไม่มีเวลาว่างมาถ่ายรูปคู่กันมากนักใช่ไหมคะ และเมื่อต้องเตรียมตัว ถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่ว่าที่บ่าวสาวมือใหม่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. คิด Concept หาเรฟและสไตล์ที่เราทั้งคู่ชื่นชอบ
มาเริ่มขั้นตอนแรกในการเตรียมตัวก่อนถ่ายพรีเวดดิ้งกันค่ะ นั่นก็คือ การคิด Concept พร้อมหา reference และสไตล์การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่เราทั้งคู่ชื่นชอบนั่นเอง แค่ขั้นตอนแรกก็เริ่มยากแล้วใช่ไหมคะ ว่าเอ๊ะ! เราจะเลือกถ่ายพรีเวดดิ้งเป็นแนวทางไหนดีนะ? มานิตาแนะนำว่าหากคู่บ่าวสาวยังไม่มีไอเดียอาจต้องลงแรงทำการบ้านสักนิดโดยการค้นหา Reference สไตล์ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่เราทั้งคู่สนใจจาก Pinterest หรือ Reference จากรูปถ่ายของดาราคนดังที่เราชื่นชอบ เช่น ถ่ายพรีเวดดิ้ง Outdoor สไตล์มินิมอล , ถ่ายแนวธรรมชาติกับสถานที่ที่ทั้งคู่ชื่นชอบ , ถ่ายในสตูดิโอเน้นแต่งงานแบบจัดเต็มหรือจะเลือกถ่ายแบบชุดไทยเน้นความคลาสสิค พร้อมกำหนดธีม โทนสี ท่าทาง และการเล่นมุมกล้อง หรือถ้าคู่ไหนเลือกธีมใดธีมหนึ่งไม่ได้ จะเลือกถ่ายหลายธีมก็ไม่ว่ากันนะคะ
2. เลือกสถานที่ให้เข้ากับธีมถ่ายพรีเวดดิ้ง
มาต่อกันที่ข้อสองกันค่ะกับการเลือกสถานที่ให้เข้ากับธีมถ่ายพรีเวดดิ้งที่เราทั้งคู่ชื่นชอบ ถ้าคู่บ่าวสาวเลือกถ่ายในสตูดิโออาจไม่ต้องกังวลกับหัวข้อนี้มากนัก เพราะทางสตูดิโอจะทำหน้าที่เตรียมความพร้อมของการถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอให้อยู่แล้ว แต่หากคู่บ่าวสาวเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งเป็นรูปแบบ Outdoor สำหรับถ่ายสไตล์มินิมอลหรือธีมแนวธรรมชาติ มานิตาแนะนำให้ทำการบ้านหาข้อมูลสถานที่ที่เราจะไปถ่ายรูปสักนิด เพราะบางที่อาจจะต้องขออนุญาตเจ้าของสถานที่ก่อนด้วย และถ้าจะให้มั่นใจแบบ 100% อย่าลืมแวะไปดูสถานที่ก่อนวันถ่ายพรีเวดดิ้งนะคะ จะได้รู้ลักษณะหน้างาน สภาพอากาศ แสง มุมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในวันถ่ายจริงมากเลยค่ะ
3. เลือกชุดถ่ายพรีเวดดิ้งและทรงผม
เมื่อได้ธีมสำหรับถ่ายภาพและสถานที่เรียบร้อยแล้ว เรามาต่อกันที่องค์ประกอบสำคัญถัดไปเลยค่ะ นั่นก็คือการเลือกชุดถ่ายพรีเวดดิ้ง นั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าการถ่ายพรีเวดดิ้งจะต้องเปลี่ยนชุดเยอะๆ หรือถ่ายหลายๆชุดเพื่อที่จะได้รูปออกมาหลายรูปแบบ แต่ความจริงแล้วอาจไม่ใช่ผลดีเสมอไป เพราะการเปลี่ยนชุดแต่ละครั้งจะทำให้เราเสียเวลา ยิ่งอากาศร้อนๆก็จะทำให้บ่าวสาวเหนื่อยได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ มานิตาแนะนำให้เลือกชุดที่จะถ่ายสัก 3-4 ชุด ก็เพียงพอจะได้รูปสวย ๆ ไปประดับหน้างานและเก็บเป็นความทรงจำแล้วล่ะค่ะ เคล็ดลับสำคัญคือการเลือกชุดถ่ายพรีเวดดิ้งให้เข้าธีมและสถานที่ที่เราเลือกจะทำให้รูปดูสมูธไปในทิศทางเดียวกัน และอย่าลืมออกแบบทรงผมให้เข้ากับชุดที่เราเลือกด้วยนะคะ พอถึงวันงานคู่บ่าวสาวจะได้แจ้ง reference ทรงผมให้กับช่างได้เลย เพียงเท่านี้รูปถ่ายพรีเวดดิ้งก็ออกมาสวยสมบรูณ์แบบสุด ๆ แล้วล่ะค่ะ
4. หาช่างถ่ายภาพ ทีมงานและจองคิว
รูปถ่ายพรีเวดดิ้งจะถูกถ่ายออกมาสวยถูกใจหรือไม่ ปัจจัยสำคัญคือตัวช่างภาพและทีมงานเลยนะคะ มานิตาแนะนำว่าก่อนที่คู่บ่าวสาวจะตกลงปลงใจเลือกซื้อแพ็คเกจถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับช่างภาพคนไหน ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ทั้งในเรื่องราคา สไตล์การถ่ายภาพ และจำนวนรูปที่จะได้รับ เคล็ดลับสำหรับการได้ช่างภาพที่ถูกใจก็คือ คู่บ่าวสาวต้องชื่นชอบสไตล์การถ่ายภาพของช่างคนนั้น ๆ อย่าพยายามให้ช่างภาพถ่ายรูปเลียนแบบช่างคนอื่น เพราะการที่ช่างภาพได้แสดงฝีมือในสไตล์ของตัวเอง ภาพจะออกมาสวยและเป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ อย่าลืมสอบถามว่าในแพ็กเกจรวมทีมงานและช่างแต่งหน้าทำผมด้วยหรือไม่ พร้อมกับขอ reference การแต่งหน้าที่เคยทำมา เพื่อพิจารณาดูว่าตรงใจเราไหม และถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าสไตล์ไม่ตรงกับเรา มานิตาแนะนำให้จ้างช่างแต่งหน้า-ทำผมด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ เพราะภาพถ่ายพรีเวดดิ้งจะออกมาดูดีตรงใจหรือไม่ ช่างแต่งหน้าและทำผมมีส่วนสำคัญมากเลยนะคะ แต่ถ้าหากทุกอย่างลงตัวในแพ็คเกจอยู่แล้ว อย่ารอช้า กดจองคิวทันที! เพราะแพ็กเกจดี ๆ มีจำนวนจำกัดนะคะ
5. ดูแลรูปร่างและผิวพรรณ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับถ่ายภาพ
รู้ไหมคะ? การถ่ายพรีเวดดิ้ง ใช้พลังงานเยอะมากพอ ๆ กับวันแต่งงานเลยนะคะ เพราะฉะนั้นคู่บ่าวสาวจะดูโทรมไม่ได้เป็นอันขาด เพื่อภาพถ่ายสวย ๆ ที่จะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน มานิตาแนะนำให้คู่บ่าวสาวเตรียมตัวให้พร้อมทั้งการดูแลรูปร่างและผิวพรรณ หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ให้ความสำคัญสำหรับความสะอาดร่างกาย หนวดเครา เล็บสำหรับว่าที่เจ้าบ่าว หากเป็นไปได้สำหรับว่าที่เจ้าสาวอาจเลือกเข้าคอร์สดูแลผิวพรรณร่างกายและผิวหน้า 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันถ่ายภาพเลยค่ะรวมทั้งทำเล็บให้เรียบร้อย และที่สำคัญที่สุดคืนก่อนถ่ายพรีเวดดิ้งคู่บ่าวสาวต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ชาร์ตแบตให้เต็มเปี่ยมเพื่อให้หน้าตาสดใส มีเอนเนอร์จี้และความสุขสุด ๆ ในวันถ่ายพรีเวดดิ้ง เพื่อให้ภาพถ่ายของเราออกมาสมบรูณ์แบบที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่า
6. เลือกรูปถ่ายพรีเวดดิ้งไปใช้งาน
และเมื่อการถ่ายพรีเวดดิ้งเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของคู่บ่าวสาวแล้วล่ะค่ะที่จะต้องเลือกรูปถ่ายพรีเวดดิ้งไปใช้ในงานแต่งงานของเรา ทั้ง การนำภาพถ่ายพรีเวดดิ้งไปเป็นการ์ดแต่งงานสวย ๆ ที่มีรูปแบบให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดแต่งงานรูปภาพมินิมอล การ์ดแต่งงานแบบอะคริลิคที่ตั้งโชว์และเก็บเป็นที่ระลึกได้ รวมทั้งนำไปเป็นการ์ดแต่งงานออนไลน์หรือ Mobile wedding card สุดปังล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ความสะดวกในการใช้งานได้จริง พร้อมใส่ภาพพรีเวดดิ้งได้อย่างจุใจสุด ๆ
นอกจากนี้ ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งสวย ๆ ของเรายังนำไปใช้เป็นของประดับตกแต่งในงานแต่งงานได้อีกด้วย ทั้งการทำเป็นป้ายแคนวาสและสแตนดี้อะคริลิคจัดแสดงเป็นมุมแกลอรี่เก๋ ๆ เพื่อบอกสไตล์ของคู่บ่าวสาว ให้แขกได้มาร่วมถ่ายรูปที่ด้านหน้างาน หรือจะนำภาพถ่ายพรีเวดดิ้งมาจัดทำรวมเล่มเป็นโฟโต้บุคสวย ๆ พร้อมทำหน้าที่เป็นสมุดอวยพรไปในตัว ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจและร้านมานิตาของเราก็พร้อมให้บริการจัดทำภาพพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวเป็นของประดับตกแต่งงานแต่งงานสุดพิเศษ ที่ไม่ซ้ำใครเลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับคำแนะนำ สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนถ่ายพรีเวดดิ้ง ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งสมบรูณ์แบบขาดไม่ได้เลยใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือคู่รักต้องมีความสุข และสนุกที่ได้ถ่ายรูปร่วมกัน ไม่ควรเป็นกิจกรรมที่ตึงเครียด ฉะนั้นก่อนตัดสินใจถ่ายพรีเวดดิ้งควรอธิบายความต้องการของกันและกันให้ชัดเจน รวมถึงซักซ้อมท่าที่ต้องการถ่ายไว้บ้างเพื่อลดอาการเขินในวันถ่ายจริง เพื่อให้ได้รูปที่ดีที่สุดนะคะ