งานแต่งงานถือเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของคู่รักหลายๆ คู่ ทุกองค์ประกอบล้วนต้องได้รับการใส่ใจอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ทุกอย่างออกมางดงามมากที่สุด ในปัจจุบัน “เทรนด์สีเขียว” กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในงานแต่งงาน เพราะ งานแต่งโทนสีเขียว สื่อถึงความสดชื่น มีชีวิตชีวา ความอุดมสมบูรณ์ และความเจริญงอกงาม ซึ่งสอดคล้องกับการเริ่มต้นชีวิตคู่ นอกจากนี้ สีเขียวยังเป็นสีที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม สะกดทุกสายตา เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่ต้องการความโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
การเลือกเฉดสีเขียวสำหรับ งานแต่งโทนสีเขียว มีหลากหลายเฉดสี ตั้งแต่สีเขียวอ่อน ไปจนถึงสีเขียวเข้ม แต่ละเฉดสีให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น สีเขียวอ่อน ให้ความรู้สึกสดใส ร่าเริง เหมาะกับงานแต่งงานในช่วงกลางวัน สีเขียวเข้ม ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม สีเขียวมรกต ให้ความรู้สึกมีระดับ หรูหรา เหมาะกับงานแต่งงานที่ต้องการความโดดเด่น เป็นต้น
เอาล่ะค่ะ วันนี้มานิตา จะมาเจาะลึก 10 เฉดโทนสีเขียวที่เหมาะสมกับงานแต่งงานกัน
1.Sage Green : สีเขียวอมเทา
Sage Green สีเขียวอ่อนอมเทา เป็นสีที่ดูอ่อนโยน ผ่อนคลาย และสบายตา เหมาะกับงานแต่งงานแบบเรียบง่าย อาทิ ธีมงานแต่งแบบ โบฮีเมียน หรือธีมมินิมอล บรรยากาศที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา และยังสามารถจับคู่สีกับสีขาว สีครีม หรือสีเทา ก็ได้เช่นกัน ในส่วนชุดแต่งงาน เจ้าบ่าวเลือกสวมสูทสีเทา หรือเสื้อเชิ้ตสีเขียวอมเทาก็มีเสน่ห์มากๆ และเจ้าสาวสวมชุดแต่งงานสีขาวที่เรียบง่าย อาจะเป็นทรง Empires หรือ Tea length ก็สวยสง่าไม่แพ้กันเลยค่ะ
2. Forest Green : สีเขียวเข้ม
เฉดสีเขียวเข้ม สุดคลาสสิค หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบสีเข้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ สี Forest Green ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยล่ะค่ะ เป็นสีที่ได้รับความนิยมสำหรับงานแต่งงาน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูหรูหรา และกลมกลืนไปกับธรรมชาติ เหมาะกับงานแต่งงานกลางแจ้ง ธีมป่าเขา หรือธีมวินเทจ เจ้าบ่าวสามารถสวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวเข้ม กางเกงขายาวสีเบจ เจ้าสาวสวมชุดแต่งงานสีขาวหรือครีม ก็เข้าคู่ได้อย่างสวยงาม ยังช่วยขับให้เจ้าสาวดูเปล่งประกายออกมาอีกด้วยค่ะ
3. Emerald Green : สีเขียวมรกต
เขียวมรกตเป็นสีที่ดูหรูหรา และคลาสสิก เหมาะกับงานแต่งงานที่มีธีม Luxury จัดในสถานที่หรูหรา เช่น โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือสวนสวยที่มีการตกแต่งอย่างประณีต และยังสื่อถึงความมั่งคั่ง สามารถจับคู่สีเขียวมรกต กับสีทอง สีเงิน หรือสีขาว เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับงานแต่งงาน ชุดเจ้าบ่าวสวมสูททักซิโด้สีเขียวมรกต กับชุดเจ้าสาวสีขาวปักเลื่อมลายดอกไม้โทนสีขาว ครีม และเขียว แค่นี้ก็สวยหรูดูแพงขึ้นมาทันที
4. Olive Green : สีเขียวมะกอก
สีเขียวมะกอก เป็นสีเขียวที่มีความเข้ม แต่ไม่ทึบ เป็นสีที่สุภาพ เรียบหรู ดูมีรสนิยม เหมาะกับงานแต่งงานที่มีธีม Rustic หรือ Vintage ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูย้อนยุค แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น สามารถจับคู่สีเขียวมะกอก กับสีน้ำตาล สีเบจ หรือสีส้มอิฐก็ได้เช่นกัน เพิ่มลูกเล่นด้วยผ้าลินินหรือกำมะหยี่ เหมาะกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ชื่นชอบสไตล์วินเทจ
5. Mint Green : สีเขียวมิ้นต์
สำหรับบ่าวสาวที่ชื่นชอบความน่ารัก สดใส เห็นแล้วสบายตา สีเขียวมิ้นต์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่จัดกลางแจ้งธีม Summer เช่น ในสวน หรือริมทะเล และประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีชมพู พีช ขาว เพิ่มความหวานละมุนให้กับเจ้าสาวที่อยากได้ลุคสดใสได้เป็นอย่างดี เจ้าบ่าวก็สามารถสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีเขียวมิ้นต์ เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับงานแต่งงานของคุณได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
6. Teal green : สีเขียวอมฟ้า
เป็นการผสมผสานระหว่างสีเขียวและสีฟ้าอย่างลงตัว สะท้อนถึงความหรูหรา ความมั่นคง และความร่มรื่น ดังนั้นเหมาะกับงานแต่งงานแบบโมเดิร์น จัดงานในสวน ริมทะเล หรือในสถานที่จัดงานหรูหรา สำหรับเจ้าสาวลองเลือกชุดแต่งงานสี Teal Green ที่มีดีไซน์เรียบหรู เช่น สไตล์ mermaid หรือ A-line ส่วนเจ้าบ่าวอาจสวมสูทสีกรมท่า หรือ สีเทา เพื่อให้เข้ากับชุดเจ้าสาว ตกแต่งงานด้วยดอกไม้ เช่น ดอกกุหลาบ ดอกไฮเดรนเยีย หรือ ดอกกล้วยไม้ เพื่อเพิ่มความหรูหราและความโรแมนติกในงานแต่งค่ะ
7. Jade Green : สีเขียวหยก
นับเป็นสีที่มีเสน่ห์ สะกดทุกสายตา และเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง จึงไม่แปลกใจที่หลายคู่เลือกใช้สีเขียวหยกเป็นธีมหลักในงานแต่งงาน เพราะไม่เพียงแต่จะสร้างบรรยากาศที่หรูหรา สง่างามเท่านั้น สีเขียวหยกยังเป็นสัญลักษณ์ของความรักนิรันดร์ ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ เหมาะสำหรับงานแต่งงานแบบแนวคลาสสิก โมเดิร์น ช่วยสร้างบรรยากาศหรูหราโรแมนติกได้ดีเลยล่ะค่ะ
8. Moss Green : สีเขียวมอส
โทนสียอดฮิตตลอดกาลต้อง Moss Green เลยค่ะ เป็นสีเขียวโทนกลาง จึงเหมาะกับงานแต่งทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นงานสไตล์หรูหรา งานแบบ Rustic หรือแม้กระทั่งงาน Outdoor ก็ตาม และโทนสีนี้ยังเข้ากันได้ดีกับ สีทอง สีขาว หรือแม้แต่สีเงิน ช่วยเสริมให้บรรยากาศงานแต่งงานดูหรูหราและมีระดับยิ่งขึ้น หากบ่าวสาวยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกเฉดสีเขียวโทนไหนดี แนะนำโทน Moss Green เลยค่ะ
9. Pistachio Green : พิสตาชิโอ
Pistachio Green เป็นสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของเมล็ดพิสตาชิโอ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการแฟชั่น รวมถึงงานแต่งงาน เพราะเป็นสีที่หรูหรา อ่อนโยน และยังสามารถเข้ากันได้กับหลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีเงิน สีทอง จึงเหมาะสำหรับงานแต่งงานที่มีธีมหรูหรา สง่างาม และคู่รักยุคใหม่ที่ชื่นชอบความทันสมัย และไม่ต้องการความหวานจนเกินไป
10.Lime Green : เขียวมะนาว
สำหรับบ่าวสาวที่มีความ Unique สดใส นำเทรนด์ เปรี้ยวซ่า ต้อง Lime Green เลยค่ะ เหมาะกับงานแต่งที่มีความสนุกสนาน คึกคัก ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีเหลือง ส้ม แดง เพิ่มความสนุกสนานให้กับงานแต่งได้เป็นอย่างดี สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ และไม่ซ้ำใคร หรือจะเป็นงานแต่งแบบหรูหรา ควรเน้นไปที่การจับคู่กับสีอื่นๆ ที่เข้ากัน เช่น สีขาว สีเงิน สีทอง สีครีม จะช่วยเสริมความหรูหราให้กับงานได้มากยิ่งขึ้นเลยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ รวม 10 เฉดสีเขียว ที่มานิตานำมาฝากในวันนี้ แต่ละสีจะให้อารมณ์และฟีลที่ต่างกัน ใครชอบโทนสีไหนก็อย่าลืมจดลิสต์ไปเป็นไอเดียในการจัดงานแต่งงานนะคะ นอกจากนี้สีเขียวยังเป็นสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศงานแต่งงานให้สดชื่นมีชีวิตชีวา และน่าประทับใจอีกด้วย ส่วนบ่าวสาวคู่ไหนที่สนใจการ์ดแต่งงาน ของชำร่วยและของตกแต่งที่เข้ากับธีมสีเขียวอยู่ล่ะก็ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมงานของมานิตาเวดดิ้งได้เลยนะคะ เรามีทีมงานให้คำปรึกษาจัดเตรียมสร้างสรรค์งานแต่งให้ทุกคู่ค่ะ