การ์ดแต่งงาน เป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนและความรักของคู่บ่าวสาว จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิถีพิถันในการออกแบบ และตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยในการออกแบบคือ โปรแกรม Canva ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยม ที่ผู้คนเลือกใช้ในการออกแบบการ์ดเชิญ ด้วยความที่ใช้ง่าย และมีฟีเจอร์ตกแต่งที่หลากหลาย แต่การจะ ทำการ์ดแต่งงาน Canva ก็มีจุดที่ต้องระวังนะ มาดูกันว่า 5 ข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อน จะเริ่มออกแบบ ทำการ์ดแต่งงาน Canva มีอะไรบ้าง
1. เลือกขนาดของการ์ดและ Bleed
ก่อนที่จะเริ่มออกแบบ เราต้องเลือกขนาดการ์ดให้ถูกต้องก่อน ที่สำคัญอย่าลืมดูหน่วยด้วยนะ เช่น การ์ดแต่งงาน ขนาดปกติที่นิยมใช้คือ ขนาด 5×7 นิ้ว ส่วนถ้าเป็นการ์ดยาว ขนาด 4×9 นิ้วเป็นต้น ซึ่งขนาดการ์ดควรเลือกเป็นขนาดที่นิยมใช้เพื่อให้ง่าย ต่อการหาซองการ์ดแต่งงาน จากนั้นคือการเลือก Bleed หรือระยะตัดตกนั่นเองค่ะ ในส่วนนี้เราจะต้องติ๊กเปิดไว้นะคะ เพราะเวลาเราออกแบบจะได้ไม่เลยกรอบที่จะโดนตัดทิ้ง ไม่งั้นเสียใจแย่เลยล่ะค่ะ สิ่งที่เราออกแบบไว้โดนตัดทิ้งไป
2. การเลือก Template ให้เข้ากับธีมงาน
ในโปรแกรม Canva ก็จะมีเทมเพลตการ์ดแต่งงานให้เลือกมากมาย แต่ละแบบก็จะมีสไตล์และโทนสีที่แตกต่างกัน ควรเลือกเทมเพลต ที่เข้ากับธีมงานแต่งงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน สไตล์วินเทจ โมเดิร์น เรียบหรู หรือ หวานแหวว ควรหลีกเลี่ยงลวดลายที่ไม่เหมาะสม และการใช้เครื่อง Color Wheel ใน Canva ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเลือกสีธีมงาน ให้เข้ากันอีกด้วยนะคะ และสิ่งสำคัญอย่าลืมดูภาพรวมของการ์ดแต่งงานด้วยนะคะ ว่าถูกต้องและ ตรงใจของเราหรือยัง
3. ระวังเรื่องลิขสิทธิ์
สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือเรื่องลิขสิทธิ์ก่อนจะส่งพิมพ์ การ์ดแต่งงาน เพราะใน Canva มีภาพสวยๆ เยอะมาก แต่ไม่ใช่ทุกภาพที่ฟรี โดยวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาคือ ให้ใช้เฉพาะภาพที่ระบุว่า Free เท่านั้นถ้าอยากได้ภาพพรีเมียม ลองซื้อแพ็คเกจ Canva Pro หรือถ่ายภาพคู่ของคุณเองแล้วอัปโหลด รับรองว่าเป็นเอกลักษณ์สุดๆเลยล่ะค่ะ
4. เลือกสีพื้นหลังและฟอนต์ที่อ่านง่าย
ฟอนต์ที่สวยงามอาจมีมากมาย แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องอ่านง่าย เหมาะสำหรับการพิมพ์บนกระดาษ ไม่ควรใช้ฟอนต์ที่ตัวเล็ก หรือมีลูกเล่นมากเกินไป เพราะจะทำให้แขกอ่านข้อความได้ลำบาก ถ้าให้แนะนำฟอนต์ที่อ่านง่าย สำหรับการใส่ข้อมูลสำคัญลงไปในการ์ดแต่งงานก็ขอแนะนำ เช่น Open Sans, Roboto ค่ะ และอีกเรื่องสำคัญ ก็คือการเลือกสีค่ะ บางทีการเลือกสีของเรา ก็อาจจะไม่เข้ากับสไตล์งานแต่งงาน ดังนั้นเราควรเลือกสีที่เหมาสม และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ฟอนต์ที่เลือกอ่านง่ายและสีที่ใช้มีความเข้ากันได้ดี
5. ตรวจสอบข้อความทั้งหมดก่อนส่งพิมพ์
เมื่อเราผ่านข้อระวังมาครบทุกข้อแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของ ชื่อ วันที่ และ สถานที่ก่อนส่งพิมพ์ด้วยนะคะ ไม่งั้นได้แก้ไขยกใหญ่เลยล่ะค่ะ และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญเราควร expor ไฟล์ เป็น PDF Print กดติ๊ก Crop marks and bleed และไฟล์ PDF ของเราจะมีเส้นตัดให้เราเห็นเหมือนรูปตัวอย่างเลยนะคะ เราก็สามารถกะระยะส่วนที่การ์ดจะโดนตัดออกได้ค่ะ
และถ้าเรา expor ไฟล์ เป็น SVG มาเผื่อไว้กันอักษรของ PDF เด้งหรือเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด ทางกราฟฟิกจะนำไฟล์ SVG มา Merge กันเพื่อนำส่งพิมพ์ต่อไป และถ้าจะให้ดี ถ้ามีไฟล์. JPG เพื่อให้ทางกราฟฟิก เช็คภาพรวมด้วยก็จะดีมาก เพราะบาง Template ของ Canva ลวดลายบางอย่าง พอเรา export ออกมาเป็น PDF มันอาจจะหายไป ถ้ามี JPG มาด้วย ทีมงานกราฟฟิกจะได้ตรวจรายละเอียดให้ได้
การออกแบบ การ์ดแต่งงานใน Canva เป็นวิธีที่สะดวก และง่าย แต่เพื่อให้การ์ดออกมาสวยปัง ไม่พลาดแม้แต่จุดเดียว คุณต้องใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่ การเลือกขนาด และ ความละเอียดของไฟล์ ไปจนถึงการเลือกฟอนต์ และ การจัดวางองค์ประกอบให้สมดุล และอย่าลืมตรวจสอบการตั้งค่า Bleed และ Safe Zone ก่อนส่งพิมพ์ เมื่อคุณทำตามข้อควรระวังเหล่านี้ การ์ดแต่งงาน ของคุณจะสวยงาม และสมบูรณ์แบบ พร้อมที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ ได้อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการ์ดแต่งงาน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวันพิเศษ ทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ต้องเครียดมากนะคะ
หากคู่บ่าวสาว ท่านไหนยังนึกไม่ออกว่าจะ ทำการ์ดแต่งงาน ออกมาแนวไหนดี ให้เหมาะกับคู่เรา สามารถติดต่อเข้ามาที่มานิตาได้ทุกสาขาเลยค่ะ เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำให้กับทุกคู่ค่า