เมื่อพูดถึง ชุดแต่งงาน หรือชุดเจ้าสาว เฉดสีที่ได้รับความนิยมทั่วโลกต้องยกให้เฉดสีขาวเลยค่ะ เพราะสื่อถึงความบริสุทธิ์ ความรัก ความสง่างาม สะท้อนถึงบุคลิกและสไตล์ของเจ้าสาวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สีขาวในชุดแต่งงานไม่ได้มีเฉดสีเดียวเท่านั้นนะคะ แต่จริงๆ แล้วมีขาวหลายเฉดมากให้เลือก วันนี้มานิตาจะพาสาวๆ มาทำความรู้จักกับ 10 เฉดสีขาว สำหรับ ชุดแต่งงาน เลือกให้เหมาะกับสีผิวตัวเอง ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. Pure White (สีขาวบริสุทธิ์)
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok x Grace Kelly
Credit : Vivaris International Bridal
สีขาวบริสุทธิ์เป็นสีขาวล้วน ไม่มีการผสมสีใดๆ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความคลาสสิกและสะอาดตา เฉดนี้มักใช้ในงานแต่งงานที่เป็นทางการ อย่างไรก็ตาม สีนี้อาจจะไม่เหมาะกับทุกสีผิว โดยเฉพาะเจ้าสาวที่มีผิวซีดมาก เพราะอาจทำให้ผิวดูจืดลง
2. Off-White (สีขาวนวล)
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok x Grace Kelly
Credit : Vivaris International Bridal
Credit : Vivaris International Bridal
เป็นเฉดที่ขาวน้อยลงจาก Pure White ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและอ่อนโยนมากกว่า สีนี้เป็นที่นิยมมากเพราะเข้ากับเจ้าสาวทุกสีผิว โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ต้องการลุคหวานและโรแมนติก เพราะมีความเป็นธรรมชาติและไม่เข้มจนเกินไป
3. Ivory (สีงาช้าง)
Credit : Vanus Couture
Credit : Vivaris International Bridal
หนึ่งในเฉดสีขาวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สี Ivory มีโทนเหลืองเล็กน้อย ทำให้ดูอบอุ่นและหรูหรา คลาสสิก สีนี้เหมาะกับเจ้าสาวที่มีผิวโทนอุ่น เช่น ผิวขาวอมเหลืองหรือผิวแทน เพราะจะช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่งและสวยงามมากขึ้น
4. Cream (สีครีม)
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok
Credit :Tiara Bridal
เฉดนี้มีโทนสีเหลืองมากกว่า Ivory เล็กน้อย ให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนหวาน เป็นเฉดสีที่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการลุคคลาสสิกและโรแมนติก เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดในธีมสไตล์โบราณหรือคลาสสิก
5. Champagne (สีแชมเปญ)
Credit : Vanus Couture
Credit : Vivaris International Bridal
ถ้าต้องการชุดแต่งงานที่หรูหรา ต้องสี Champagne เลยค่ะ สีนี้เป็นส่วนผสมของสีขาวกับสีทองเบาๆ ทำให้ลุคสวยหรู ดูแพงมาก ๆ เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีผิวเข้ม หรือผิวกลาง เพราะสีแชมเปญจะขับผิวให้ดูสวยและโดดเด่นมากขึ้น
6. Blush White (สีขาวอมชมพู)
Credit : Vanus Couture
Credit : Vivaris International Bridal
Credit : Vivaris International Bridal
เฉดนี้เป็นสีขาวที่ผสมกับโทนชมพูเบาๆ ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและโรแมนติก เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความแปลกใหม่แต่ยังคงรักษาความคลาสสิกไว้ สีนี้ยังเข้ากันได้ดีกับเจ้าสาวผิวขาวอมชมพูหรือผิวโทนเย็น
7. Pearl White (สีขาวมุก)
Credit : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok
Credit : Vanus Couture
เป็นเฉดสีขาวที่มีประกายเงาวาวคล้ายไข่มุก ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างาม เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการลุคโดดเด่นเพิ่มประกายให้กับลุคของตนเอง มักจะใช้ในงานแต่งที่เป็นทางการหรืองานหรูหรา
8. Snow White (สีขาวหิมะ)
Credit : Vivaris International Bridal
สีขาวหิมะเป็นเฉดสีขาวที่สว่างสดใสกว่า Pure White แต่ยังคงความสะอาดและบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกสะอาดและเป็นประกาย เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการลุคสดใสและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในงานแต่งกลางแจ้งหรือในสถานที่ที่ต้องการความสดใส
9. Diamond White (สีขาวเพชร)
Credit : Korean Artiz Studio – Bangkok x Grace Kelly
Credit : Vivaris International Bridal
Credit : Vivaris International Bridal
Credit : Vivaris International Bridal
Diamond White คือเฉดสีขาวที่มีความเงาวาวเล็กน้อย คล้ายกับประกายของเพชร สีนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างขาวบริสุทธิ์และงาช้าง ให้ความรู้สึกอ่อนโยน แต่ยังคงแฝงความสดใสและหรูหรา เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการลุคเรียบหรูและดูมีความเงางามเมื่อแสงไฟสะท้อนบนชุดในวันสำคัญ หรูหรา ลักชูรี่ แบบลงตัว
10. Natural White (สีขาวธรรมชาติ)
Credit : Vanus Couture
Credit :Tiara Bridal
และสุดท้ายเฉดเป็นสีขาวที่มีโทนธรรมชาติ ผสมผสานกับสีครีมเบาๆ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและอบอุ่น เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความเรียบง่ายและความเป็นธรรมชาติในงานแต่งงาน
เทคนิคการเลือกเฉดสีขาวให้เหมาะกับสีผิว
1. ผิวขาวซีด (Fair Skin)
Credit : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
เจ้าสาวที่มีผิวขาวซีดควรหลีกเลี่ยงสีขาวบริสุทธิ์ (Pure White) เพราะจะทำให้ผิวดูจืดชืดเกินไป แนะนำให้เลือกเฉดที่มีความอบอุ่นเล็กน้อย เช่น Ivory หรือ Blush White ซึ่งจะช่วยเพิ่มสีสันและทำให้ผิวดูสดใสมากขึ้น
2. ผิวขาวอมเหลือง (Light Skin with Warm Undertones)
Credit : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
สำหรับเจ้าสาวที่มีผิวขาวอมเหลือง การเลือกเฉดสีที่มีโทนอุ่นอย่าง Cream หรือ Ivory จะเข้ากันได้ดี เพราะจะช่วยเสริมให้ผิวดูอบอุ่นและเปล่งประกายได้อย่างสมบูรณ์
3. ผิวกลาง-ผิวสีแทน (Medium/Tan Skin)
Credit : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
เจ้าสาวที่มีผิวกลางหรือผิวสีแทนสามารถสวมใส่สีขาวบริสุทธิ์ (White) ได้อย่างสวยงาม เพราะเฉดสีนี้จะขับให้สีผิวดูโดดเด่นและสดใสมากขึ้น อีกทั้งเฉดสีอย่าง Champagne หรือ Pearl White ก็จะช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับลุค
4. ผิวเข้ม (Dark Skin)
Credit : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
เจ้าสาวที่มีผิวเข้มควรเลือกเฉดสีที่มีประกายหรือความเงาวาว เช่น Champagne, Pearl White เฉดสีเหล่านี้จะช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่งและเพิ่มความหรูหรา การเลือกใช้ผ้าหรือวัสดุที่มีประกายจะยิ่งทำให้ลุคเจ้าสาวดูสง่างามยิ่งขึ้น
การเลือกเฉดสีสำหรับชุดแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังช่วยสะท้อนตัวตนและสไตล์ของเจ้าสาวได้อย่างดี และการเลือกเฉดสีที่เหมาะสมกับตัวเองยังจะช่วยขับให้เจ้าสาวดูโดดเด่นและสวยยงามสมบูรณ์แบบในวันสำคัญ ส่วนว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังมองหา การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย และ ของตกแต่งอยู่ล่ะก็ สามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติม กับทีมงานของมานิตา เวดดิ้ง ทุกสาขา ได้เลยนะคะ เรามีทีมงานให้คำปรึกษา จัดเตรียมสร้างสรรค์งานแต่งให้ทุกคู่ค่ะ