เตรียมงานแต่งยังไง ไม่ให้พลาด! เพราะมีสิ่งนี้ ?

การเลือกวันที่และสถานที่จัดงานแต่งงาน เป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่างที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกช่างภาพหรือการจองบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงาน

เลือกวันแต่งงานที่ใช่ : วันที่ดีและเป็นมงคลช่วยให้การแต่งงานราบรื่น ควรเลือกวันที่สะดวกกับครอบครัวสองฝ่าย รวมถึงแขกที่คุณอยากเชิญมาร่วมงาน และเช็กฤกษ์มงคลจากซินแสหรือผู้ใหญ่ในครอบครัว การเลือกวันในช่วงที่ไม่มีเทศกาลหรือวันหยุดยาวอาจจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้

เลือกสถานที่ : พิจารณาสถานที่ที่เหมาะสมกับธีมงานของคุณ เช่น โรงแรม, สวนสาธารณะ, หรือสถานที่ที่มีวิวสวยงาม ควรตรวจสอบสถานที่ให้พร้อมทั้งในเรื่องของความสะดวกในการเดินทาง, ที่จอดรถ, และบรรยากาศที่คุณต้องการ

สำรองสถานที่ : ควรสำรองสถานที่ล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือนก่อนวันงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการจองเต็ม

กำหนดธีมและสไตล์ : ให้บ่าวสาวกำหนดและเลือกธีมที่ชอบให้ชัดเจนว่าเราต้องการธีมงานให้ออกมาเป็นแบบไหน เช่น ธีมเรียบง่าย ธีมหรูหรา หรือธีมแฟนตาซี เพื่อที่จะง่ายต่อขั้นตอนต่อไป

กำหนดจำนวนแขก : ทำรายชื่อแขกที่ต้องการเชิญโดยแบ่งเป็นฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เช่น ครอบครัว, เพื่อนสนิท, และคนที่สำคัญ ประมาณจำนวนแขกที่ต้องการเชิญ เพื่อวางแผนงบประมาณและสถานที่

การตั้งงบประมาณที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างมีระเบียบและไม่เกิดปัญหาภายหลัง

กำหนดงบประมาณรวม : โดยคำนึงถึงรายจ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น เช่น ค่าสถานที่, ชุดแต่งงาน, ดนตรี, การตกแต่ง, อาหาร, และอื่นๆ

แบ่งงบให้แต่ละหมวดหมู่ : เช่น ค่าสถานที่ 40%, ชุดแต่งงาน 15%, อาหาร 20%, ช่างภาพ 10% และอื่นๆ ตามความสำคัญ

คำนึงถึงงบสำรอง: ควรมีงบประมาณเผื่อการใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

หากรู้สึกว่าการจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองอาจจะเครียดเกินไปหรือไม่มีเวลาในการจัดการทุกรายละเอียด การเลือกใช้ เวดดิ้งแพลนเนอร์ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การเลือกสถานที่ การตกแต่ง การเลือกผู้ให้บริการต่างๆ ไปจนถึงการจัดการเวลาในวันงาน โดยที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลย

ให้เลือกทีมช่างภาพที่มีผลงานตรงกับสไตล์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวโรแมนติก แนวฟิล์ม หรือแนวโมเดิร์น ตั้งแต่การถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง วันงาน ที่สำคัญให้นัดกับช่างภาพก่อนวันงานเพื่อปรึกษาแนวทางการถ่ายภาพให้สวยถูกใจมากยิ่งขึ้น

6 เดือนก่อนวันแต่งงาน เป็นช่วงเวลาที่คู่บ่าวสาวยังไม่ยุ่งจนเกินไป ดังนั้นหาเวลาเพื่อถ่ายรูปพรีเวดดิ้งซะเลย จะได้ไม่ต้องกังวลในช่วงใกล้วันงาน คู่บ่าวสาวจึงสามารถยิ้มใส่กล้องได้เต็มที่แบบปราศจากความเครียดใด ๆ ค่ะ

เจ้าสาวหลายคนอย่าชะล่าใจจนลืมจองช่างแต่งหน้า ช่างผมที่ตนเองชอบนะคะ เพราะช่างหน้า ช่างผมส่วนใหญ่มีคิวจองแน่น โดยเฉพาะในวันที่เป็นฤกษ์มงคล ดังนั้นหากเจ้าสาวมีช่างหน้า ช่างผมในใจ รีบโทรจองช่างด่วนเลยค่า

คู่บ่าวสาวควรใช้เวลา 6 – 8 เดือนก่อนวันแต่งงาน เลือกชุดแต่งงานทั้งพิธีหมั้นและงานฉลองมงคลสมรส พร้อมลองสวมใส่ชุดแต่งงานนั้น ๆ เพื่อหาสไตล์ที่เหมาะกับตนเองและทำการจองเมื่อคิดว่าเจอชุดที่ใช่ โดยร้านส่วนใหญ่จะยังให้โอกาสคู่บ่าวสาวได้ปรับเปลี่ยนชุดภายในร้านได้ก่อนถึงวันฟิตติ้งค่ะ

แหวนแต่งงาน สิ่งสำคัญในงานแต่ง คู่บ่าวสาวควรใช้เวลาช่วงนี้เลือกร้านและรูปแบบแหวนที่ชอบ และหากคุณเลือกวิธีการสั่งทำแหวนยิ่งต้องรีบสั่งทำทันที เพราะแหวนแต่งงานต้องอาศัยทั้งเวลาและความประณีตในการจัดทำขึ้นนะคะ

จากประสบการณ์ของมานิตา เราอยากแนะนำคู่บ่าวสาวให้เลือกรูปแบบการ์ดแต่งงานและพิมพ์การ์ดในช่วงเวลานี้ เลือกประเภทการ์ด เช่น การ์ดกระดาษพิมพ์แบบพิเศษหรือแบบ E-Card ที่สะดวกและรวดเร็วเพราะการ์ดแต่งงานเปรียบเสมือนตัวแทนคู่บ่าวสาว และจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้แขกได้รับรู้ถึงธีมงาน จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกเพื่อมอบให้แขกกันนะคะ

จัดทำของชำร่วย ของรับไหว้ที่ใช้งานแต่งงาน มานิตาแนะนำให้คู่บ่าวสาวสั่งทำล่วงหน้า ยิ่งหากสั่งทำจำนวนมากแล้ว ต้องปรึกษากับร้านที่จัดทำให้ดีว่าสามารถจัดทำได้ตรงตามเวลาที่คู่บ่าวสาวต้องการหรือไม่

เมนูอาหารเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด ก่อนจะเลือกว่าเมนูของกินและเครื่องดื่มที่ใช้ในงานแต่งงานมีอะไรบ้าง อย่าลืมตรวจสอบก่อนว่าแขกในงานมีใครแพ้อาหารชนิดใดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนะคะ ส่วนการเลือกประเภทอาหารก็จะมีหลายแบบไม่ว่าจะเป็น บุฟเฟต์, โต๊ะจีน หรือ ค็อกเทล

คู่บ่าวสาวอย่าลืมเตรียมงานแต่งงานจนลืมดูแลตัวเองกันนะคะ โดยเฉพาะเจ้าบ่าวเจ้าสาวของมานิตา ต้องสวยหล่อโดดเด่นที่สุดในงาน และหากไม่มีเวลาในการเตรียมตัวเองก็ซื้อคอร์สแบบเต็มที่ไปเลยค่ะ

หนึ่งเดือนก่อนวันแต่งงาน คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการส่งการ์ดเชิญแขก และยิ่งแขกคนสำคัญที่คู่บ่าวสาวต้องไปเรียนเชิญด้วยตัวเอง ก็จะทำให้คุณได้ใช้เวลาช่วงนี้จัดการให้เรียบร้อยค่ะ

ช่วงเวลานี้เรียกว่าโค้งสุดท้ายของการเตรียมงานแต่งงาน ที่คู่บ่าวสาวต้องสรุปและเตรียมงานให้พร้อมที่สุด เพื่อที่ว่าหลังจากนี้คู่บ่าวสาวจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อพร้อมที่สุดในวันแต่งงานนั่นเอง

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความผิดพลาดในวันจริง คือการซ้อมรันคิวงานล่วงหน้า เพื่อให้ทุกฝ่ายรู้หน้าที่ของตัวเอง เช่น พิธีกร ทีมจัดงาน และเจ้าบ่าวเจ้าสาว ควรทำการซ้อมก่อนวันงานจริงอย่างน้อย 1 สัปดาห์

ก่อนวันงาน 1-2 สัปดาห์ ควรโทรคอนเฟิร์มทุกสิ่ง เช่น สถานที่จัดงาน ช่างแต่งหน้า-ทำผม ช่างภาพอาหารและเคเทอริ่ง วงดนตรีหรือดีเจ คิวแขกผู้ใหญ่และพิธีกร

หนึ่งวันก่อนจะถึงวันงานจริงสิ่งสำคัญมากเลยก็คือการรับประทานอาหารให้อิ่ม และนอนพักผ่อนให้เพียงพอเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เพราะวันแต่งงานของเราอาจจะไม่มีเวลาทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงจบงาน ดังนั้นก่อนวันงานอย่าลืมพักผ่อนกันนะคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ หวังว่าคำแนะนำใน การเตรียมตัว จัดงานแต่งงาน เหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้ กับ คู่บ่าวสาวได้นะคะ หรือ บ่าวสาวรุ่นพี่ มีเรื่องราวไหนบ้างที่อยากจะ ช่วยแนะนำ หรือ บอกต่อ ก็ลองบอกต่อกันมาได้นะคะ แต่ยังไงก็อย่าลืมว่า เป้าหมายเราไม่ใช่การมีความสุข แค่ในวันแต่งงาน เท่านั้น แต่ระหว่างที่จะไปถึงก็ควร ที่จะต้องมีความสุขด้วย เช่นกันนะคะ

หากบ่าวสาวคู่ไหนที่สนใจ การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย และ ของตกแต่ง ที่เข้ากับธีมงานที่กำลังจัดงานอยู่ล่ะก็ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กับทีมงานของมานิตา เวดดิ้ง ได้ทุกสาขาเลยนะคะ เรามีทีมงานให้คำปรึกษาจัดเตรียมสร้างสรรค์งานแต่งให้ทุกคู่ค่ะ