วันแต่งงานเป็นหนึ่งวันสุดแสนพิเศษเลยนะคะ เพราะไม่มีใครรู้ว่าโมเมนต์อันแสนประทับใจแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ บางทีอาจจะเกิดขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งเดียวด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะจ้างช่างถ่ายรูปเก็บความประทับใจในวันนี้เอาไว้ค่ะ แต่บ่าวสาวบางคู่ก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ กลัวได้ ช่างภาพในงานแต่งงาน ไม่ดีบ้างล่ะ กลัวช่างภาพถ่ายออกมาไม่สวยบ้างล่ะ วันนี้เราก็เลยนำเทคนิคเลือก ช่างภาพในงานแต่งงาน มาฝากกัน เพื่อให้ทุกคนได้ช่างภาพที่สามารถถ่ายรูปออกมาตรงใจคุณมากที่สุดค่ะ!
1. เลือกที่ผลงานของช่างภาพเป็นหลัก
อย่าเชื่อว่าช่างภาพคนนั้นดี คนนี้ถ่ายรูปสวย จนกว่าคุณจะเห็นด้วยตาของตัวเองค่ะ สิ่งแรกที่คุณควรทำก็คือตรวจสอบผลงานของช่างภาพ ดูว่าสไตล์การถ่ายเป็นแบบไหน การแต่งรูปเป็นยังไง ถูกใจหรือไม่ ที่สำคัญอย่าตัดสินใจจากรูปเพียงไม่กี่ใบนะคะ หากอยากได้ช่างภาพที่ดีที่สุดสำหรับวันสำคัญ คุณต้องตรววจสอบอย่างละเอียดจนแน่ใจว่าคนนี้แหละคือช่างภาพมือทองที่เราตามหาค่ะ
2. ประสบการณ์ของช่างภาพ
Credit : brides
ยิ่งชั่วโมงบินสูงยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าภาพในวันแต่งงานของคุณจะออกมาสวยงามตรงใจค่ะ นอกจากจะเช็คเรื่องผลงานแล้ว ควรจะเช็คด้วยว่าช่างคนนั้นมีประสบการณ์มากแค่ไหน ถ่ายรูปแบบไหนบ้าง ทำมาแล้วกี่ปี แต่หากช่างภาพที่คุณชอบมากๆ มีประสบการณ์น้อยก็ไม่เป็นไร ให้ตรวจสอบสื่งอื่นเพิ่มเติมอย่างละเอียดแทนค่ะ เช่น คำติชมจากลูกค้าคนอื่น เป็นต้น
3. เลือกช่างภาพเป็นทีมเดียวกัน
Credit : clairedianaphotography
หากคุณต้องการจ้างทั้งช่างภาพนิ่งและช่างภาพเคลื่อนไหว แนะนำว่าให้เลือกเป็นทีมเดียวกันจะเวิร์กกว่าจ้ะ ด้วยความที่เขาทำงานด้วยกันมาก่อน ปัญหาช่างภาพบังกล้องหรือผิดคิวกันจะไม่เกิดขึ้น มีความสะดวกและคล่องตัวในการทำงานมากกว่า แต่หากใครต้องการจ้างแยกจริงๆ ควรให้ช่างภาพทั้งสองทีมตกลงรายละเอียดและนัดแนะคิวกันให้เรียบร้อยค่ะ
4. วางงบประมาณให้ดี
Credit : unsplash
ก่อนที่จะตกลงจ้างช่างภาพ สิ่งสำคัญไม่แพ้ผลงานและประสบการณ์ของช่างภาพเลยก็คือเรื่องค่าจ้างค่ะ คุณควรตั้งงบประมาณในใจเอาไว้ก่อน และพยายามเลือกช่างภาพให้อยู่ในงบเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้จ่ายเกินจำเป็น นอกจากนี้ควรตรวจสอบทั้งผลงาน ประสบการณ์และอุปกรณ์การทำงานของช่างภาพให้ละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ผลงานที่คุ้มค่าต่อการลงทุนนั่นเอง
5. คุยรายละเอียดของงานให้เรียบร้อย
Credit : unsplash
เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด อย่าลืมที่จะพูดคุยรายละเอียดทั้งหมดให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนแรกด้วยนะคะ คุณมีไอเดียอยากจะทำอะไรบ้าง งานแต่งงานของคุณเป็นแบบไหน ธีมอะไร อธิบายไปให้หมด เพื่อให้มั่นใจว่าช่างภาพคนนี้สามารถถ่ายรูปในแบบที่คุณต้องการได้จริงๆ ที่สำคัญคัญคือเรื่องค่าจ้าง ถามให้เคลียร์ว่าคิดราคาแบบไหน เต็มวัน ครึ่งวัน หรือนับเป็นชั่วโมงค่ะ และนอกจากนี้ หากมีส่วนไหนที่ขาดตกบกพร่อง จะได้คิดหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ได้ภาพที่สวยที่สุดจ้ะ
6. ถูกใจแล้วรีบจองคิว
Credit : unsplash
เมื่อคุณเจอช่างภาพที่ชอบแล้ว พยายามอย่าใช้เวลาตัดสินใจนานนะคะ ให้รีบจองคิวไว้ก่อนเลยค่ะ ห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะช่างภาพแต่ละคนก็จะมีคิวงานแตกต่างกัน ยิ่งเป็นตัวท็อปแล้วยิ่งคิวแน่นเลยจ้ะ บางคนถึงกับต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว ถ้าคุณมัวแต่คิดนานเดี๋ยวคิวจะเต็มเสียก่อนแล้วก็ต้องไปเสียเวลาหาช่างภาพคนใหม่อีกค่ะ
กว่าจะได้ช่างภาพที่ถูกใจนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ใครที่อยากได้ช่างภาพมือทองที่ช่วยเนรมิตภาพงานแต่งงานในฝันของคุณให้ออกมาสวยเป๊ะ ตรงใจ รีบจดเทคนิคดีๆ เหล่านี้ไปใช้ด่วนๆ เลยค่ะ หากบ่าวสาวคู่ไหนสนใจหรือมีข้อสงสัยอื่นใดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทีมงานของมานิตาได้เลยจ้า