ด้วยความที่ประเทศไทยมีความหลากหลายของศาสนา ทำให้นอกจากจะมีการแต่งงานแบบไทยแล้ว ยังมีการแต่งงานอีกหลายแบบเลยนะคะ และอีกหนึ่งการแต่งงานที่นิยมกันมากเลยก็คือ การแต่งงานแบบคริสต์ นั่นเองค่า วันนี้มานิตาก็ได้เอา ลำดับพิธีแต่งงานคริสต์ มาฝากทุกคนด้วยค่ะ แต่จะมี ลำดับพิธีแต่งงานคริสต์ ขั้นตอนอะไรยังไงนั้น ตามมามุงได้เล้ย!
Credit : jilldotyphotography
ก่อนอื่น ต้องขอบอกก่อนว่าศาสนาคริสต์มี 2 นิกายนะคะ ก็คือ คาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ซึ่งในการแต่งงานอาจจะมีรายละเอียดในพิธีบางอย่างที่ต่างกันเล็กน้อยค่ะ อย่างถ้าเป็นนิกายคาทอลิก จะต้องจัดงานแต่งงานในโบสถ์เท่านั้น ในขณะที่นิกายโปรเตสแตนต์ไม่จำเป็นต้องแต่งงานในโบสถ์เสมอไป และผู้ประกอบพิธีของนิกายคาทอลิกจะเป็นบาทหลวง ส่วนทางนิกายโปรเตสแตนต์จะเป็นศิษยาภิบาลแทนค่ะ แต่ในลำดับขั้นตอนพิธีการอื่น ๆ ที่เป็นรายละเอียดของการแต่งงานนั้น ไม่แตกต่างกันค่า
ลำดับพิธีแต่งงานคริสต์
1. จุดเทียน
เมื่อแขกเหรื่อมากันครบแล้ว พิธีแต่งงานก็จะเริ่มต้นขึ้นโดยการให้คนจุดเทียน 2 คน ไปจุดเทียนที่แท่นบูชาเพื่อเริ่มพิธีแต่งงานค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะนิยมเป็นเด็กผู้ชาย 1 คน เด็กผู้หญิง 1 คน หรือจะเป็นเด็กผู้หญิงทั้งสองคนเลยก็ได้ แต่ใครจะไม่ใช้เด็กก็ย่อมได้ค่ะ ไม่จำกัดอายุนะจ๊ะ
Credit : theknot
2. บรรเลงเพลง
พอจุดเทียนเสร็จและคนจุดเทียนเดินออกจากแท่นบูชาแล้ว วงดนตรีก็จะบรรเลงเพลงเพื่อต้อนรับเจ้าสาวเข้ามาในพิธีค่ะ โดยส่วนใหญ่ วงดนตรีจะนิยมเล่นเครื่องดนตรีพวก เปียโน ไวโอลิน หรือเครื่องดนตรีอื่นๆ ที่เสียงไม่ดังโฉ่งฉ่างมากนักค่ะ
Credit : brides
3. เจ้าสาวเข้าสู่โบสถ์
ในตอนที่เพลงบรรเลงดังขึ้น เจ้าสาวจะเข้ามาในพิธีพร้อมกับขบวนที่ประกอบไปด้วยเด็กถือแหวน เด็กโปรยดอกไม้ เด็กถือพระคัมภีร์และเพื่อนเจ้าสาวค่ะ โดยที่เจ้าสาวจะคล้องแขนพ่อเข้ามาในพิธีด้วย เป็นเหมือนการที่พ่อเจ้าสาวจะมอบสิทธิ์การดูแลนี้ให้เจ้าบ่าวรับหน้าที่แทนต่อไปจ้ะ ซึ่งในขั้นตอนนี้แขกเหรื่อต้องลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เข้ามาในพิธีด้วยนะคะ
Credit : ashleyfisherphotography
Credit : taylorkaderly
Credit : ashleyfisherphotography
4. อ่านคัมภีร์คู่ชีวิต
หลังจากพ่อเจ้าสาวส่งตัวเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าวที่แท่นบูชาแล้ว บาทหลวงหรือศิษยาภิบาลจะเริ่มอ่านคัมภีร์คู่ชีวิต ซึ่งเป็นคัมภีร์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้รับรู้ถึงหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันในฐานะสามีภรรยาเมื่อก้าวสู่การใช้ชีวิตคู่ด้วยกันค่ะ
Credit : montrealcathedral
Credit : unsplash
5. กล่าวคำปฏิญาณ
จากนั้นคู่บ่าวสาวจะทำการกล่าวคำปฏิญาณ เป็นการให้คำสัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน ทั้งในยามสุขและทุกข์จนกว่าจะตายจากกันค่ะ ซึ่งในส่วนของคำปฏิญาณเมื่อก่อนจะเป็นการกล่าวตามผู้ประกอบพิธี แต่ในปัจจุบันคู่บ่าวสาวสามารถร่างมากล่าวในงานเองก็ได้จ้ะ
Credit : cocoweddingvenues
Credit : ashleyfisherphotography
6. แลกแหวนแต่งงาน
ขั้นตอนการแลกแหวนแต่งงานจะเริ่มหลังจากกล่าวคำปฏิญาณเสร็จค่ะ โดยเจ้าบ่าวจะเป็นฝ่ายสวมแหวนให้เจ้าสาวก่อน ซึ่งการใช้แหวนก็มีเคล็ดนิดหน่อย คือให้ใช้แหวนที่ปราศจากรอยต่อค่ะ ความรักจะได้ยืนยาวไม่มีที่สิ้นสุดยังไงล่ะจ๊ะ
Credit : freepik
7. พิธีลงนาม
หลังจากสวมแหวนเสร็จแล้ว บาทหลวงหรือศิษยาภิบาลจะประกาศว่าคู่บ่าวสาวเป็นสามี ภรรยากันค่ะ จากนั้นก็จะทำการลงนามเพื่อเป็นหลักฐานว่าคู่บ่าวสาวได้มาแต่งงานกันที่โบสถ์แห่งนี้ แต่ว่าเป็นคนละใบกับะเบียนสมรสนะคะ
Credit : surreylaneweddingphotography
8. จุดเทียนครอบครัว
และพิธีการสุดท้าย ของพิธีแต่งงานก็คือการจุดเทียนค่ะ คู่บ่าวสาวจะต้องจุดเทียนพร้อมกันโดยที่เจ้าบ่าวจุดเทียนด้านซ้ายและเจ้าสาวจุดเทียนด้านขวา จากนั้นก็มาจุดเทียนตรงกลางพร้อมกันค่ะ เสร็จแล้วบาทหลวงหรือศิษยาภิบาลจะขอพรให้ครอบครัวใหม่ และประกาศการแต่งงานของคู่บ่าวสาวอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็เสร็จสิ้นพิธีค่ะ
Credit : ashleyfisherphotography
ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีแต่งงานแล้ว จะถึงส่วนที่หลายคนรอคอยนั่นคือการโยนช่อดอกไม้นั่นเอง เจ้าสาวมักจะนิยมโยนช่อดอกไม้ โดยมีความเชื่อว่าคนที่ได้ไปจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไปนั่นเองค่า
Credit : ashleyfisherphotography
Credit : weddingwire
จะเห็นได้ว่าการแต่งงานแบบคริสต์จะมีรายละเอียดขั้นตอนที่ต้องใส่ใจไม่แพ้การแต่งงานแบบอื่นเลยนะคะ แต่ก็เป็นงานแต่งงานที่อบอุ่นและมีความสุขไม่แพ้กันค่ะ โดยแต่ละที่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลต่างกันไปเนอะ ส่วนมานิตาจะเอาพิธีการแต่งงานแบบไหนมาฝากกันอีกนั้น ต้องคอยติดตามอย่าให้พลาดนะค้า