เมื่อพูดถึงงานแต่งงาน ทุกรายละเอียดล้วนมีความสำคัญ ตั้งแต่สถานที่ไปจนถึงการประดับตกแต่งที่จะสร้างความทรงจำสุดประทับใจให้กับคู่บ่าวสาวรวมทั้งแขกผู้มาร่วมงาน แต่ทราบไหมคะว่า อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยและเป็นตัวกำหนดบรรยากาศของงานทั้งหมด นั่นคือ “การ์ดแต่งงาน” เพราะ 9 สิ่งบนการ์ดแต่งงาน ทำหน้าที่เป็นบัตรเชิญพร้อมถ่ายทอดตัวตน สไตล์ของคู่บ่าวสาว รายละเอียดรวมทั้งยังเป็นของที่ระลึกสำหรับแขกหลังจบงานได้ด้วยค่ะ ในบทความนี้รวบรวมข้อมูลการเติมเต็มองค์ประกอบของการ์ดแต่งงานด้วย 9 สิ่งบนการ์ดแต่งงาน จะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูเลยค่า
1. ชื่อเจ้าบ่าว เจ้าสาว
องค์ประกอบแรก เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดบนการ์ดแต่งงานเลยก็ว่าได้ นั่นคือ ชื่อเจ้าบ่าว เจ้าสาว เพราะหัวใจสำคัญของการ์ดแต่งงานก็คือการทำหน้าที่เชิญแขกคนสำคัญไปงานของใคร ดังนั้น จะขาดชื่อบ่าวสาวเจ้าของงานไปได้อย่างไรคะ สำหรับสไตล์การใส่ชื่อก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ จะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ทั้งนั้น หรือจะเลือกใส่ชื่อเล่นต่อท้ายก็ช่วยให้จำง่ายนะคะ แต่หากเป็นงานทางการที่แขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ แนะนำว่าใส่แค่ชื่อจริงของคู่บ่าวสาว ก็เพียงพอแล้วค่ะ
2. ชื่อคุณพ่อคุณแม่บ่าวสาว
แม้ว่าคู่บ่าวสาวจะเป็นพระเอกนางเอกตัวจริงของงานแต่งงาน แต่เราไม่ใช่เจ้าภาพนะคะ เพราะเจ้าภาพก็คือ คุณพ่อคุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก ซึ่งคู่บ่าวสาวต้องให้เกรียติพวกท่านด้วยการใส่ชื่อที่ตำแหน่งด้านบนของการ์ดแต่งงาน และเริ่มต้นด้วยการให้เกียรติใส่ชื่อคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงก่อน และตามด้วยชื่อคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายชายค่ะ
3. สถานที่จัดงานแต่งงาน
การ์ดแต่งงานจะสมบรูณ์แบบถ้าตัวการ์ดได้ทำหน้าที่บอกแขกผู้ร่วมงานได้ชัดเจนว่า งานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นที่สถานที่ไหนนะคะ การใส่สถานที่จัดงานลงไปในการ์ดจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญเรียกว่าขาดไม่ได้เลยค่ะ คู่บ่าวสาวต้องใส่ชื่อสถานที่ให้ชัดเจนทั้งชื่อห้อง ชื่อสถานที่ สาขาไหน จังหวัดอะไร และแนบแผนที่ง่าย ๆ ด้วยรูปแบบคิวอาร์โค้ด ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับแขกผู้ร่วมงานด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดและขับรถไปตาม GPS ได้เลยค่ะ
4. วันที่ เวลาจัดงานแต่งงาน
สำหรับ การ์ดแต่งงาน สิ่งสำคัญที่ไม่น้อยไปกว่า สถานที่จัดงานแต่งงาน ก็คือวันเวลาที่จัดงานแต่งงาน เนี่ยแหละค่ะ คู่บ่าวสาว ต้องใส่ วัน เดือน ปี และ เวลาเริ่มงาน ให้ชัดเจนใน การ์ดแต่งงาน นะคะ จะใส่ด้านหน้า หรือ ด้านหลัง ก็ได้ค่ะ แต่เน้นตัวใหญ่ อ่านง่าย และ ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย เช่น วันเสาร์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2566 เวลา 18:30 น. เพียงเท่านี้ ก็ป้องกันไม่ให้ แขกสับสน หรือ จำวันผิดแล้วล่ะค่ะ
5. รายละเอียดของพิธีการ
หากว่าที่คู่บ่าวสาวมีรายละเอียด ของพิธีการ ในแต่ละช่วง และ ต้องการแจ้งให้ กับ แขกผู้ร่วมงานได้ทราบ เพื่อที่แขกจะได้เตรียมตัวมาทันเวลาในพิธีการสำคัญนั้นๆ คู่บ่าวสาวต้องไม่พลาดใส่รายละเอียดของพิธีการ และ เวลาเริ่มในแต่ละพิธีลงใน การ์ดแต่งงาน ด้วยนะคะ อาจจะเลือก ทำเป็นรูปไอคอนน่ารักๆ พร้อมใส่เวลาลงไป ก็ทำให้การ์ดดูสวยงาม กระชับ และ เข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
6. รูปแบบการรับประทานอาหาร
คู่บ่าวสาวหลายคนสงสัยใช่ไหมคะ ว่ารูปแบบการรับประทานอาหารจำเป็นด้วย หรือ สำหรับการ การ์ดแต่งงาน มานิตาขอแนะนำว่า จำเป็นค่ะ เพราะการจัดเลี้ยงงานแต่งงานมีหลายรูปแบบทั้ง แบบโต๊ะจีน ปาร์ตี้ค็อกเทล บุฟเฟต์ เซตเมนู ดังนั้น การแจ้งรูปแบบการรับประทานอาหารใน การ์ดแต่งงาน จะช่วยให้แขกที่มาร่วมงานเตรียมตัวได้ถูกนั่นเองค่ะ
7. ธีมงาน
ธีมงาน มานิตา ขอเรียกว่า สิ่งที่ไม่บังคับให้ใส่ใน การ์ดแต่งงาน แล้วกันค่ะ แต่สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการคุมโทนสีของงานให้เข้า กับ บรรยากาศ และ สไตล์การประดับตกแต่ง การใส่ Dress Code หรือ ธีมงานลงไปใน การ์ดแต่งงาน จะช่วยคู่บ่าวสาวคุมโทนสี และ ความสวยงามของรูปถ่ายได้มากเลยล่ะค่ะ เพราะแขกผู้ที่มาร่วมงานจะได้รู้ว่าควรใส่เสื้อผ้าสีอะไร หรือ มีลักษณะแบบไหนมาร่วมงาน ซึ่ง มานิตา เชื่อว่าแขกส่วนใหญ่เต็มใจแต่งตัวตามธีมสี ที่คู่บ่าวสาวเลือกอยู่แล้วค่ะ
8. แฮชแทค (#) ของงานแต่งงาน
หากสังเกตให้ดี การ์ดแต่งงาน สมัยนี้นิยมใส่ แฮชแทค (#) ของงานแต่งงานลงไปในการ์ดด้วยนะคะ เช่น #PJstory #Manitawedding เพราะการ ใส่แฮชแทค ไม่ใช่เพื่อความทันสมัย สวยเก๋ เท่านั้นนะคะ แต่เป็นการบอกแขกผู้ร่วมงาน ให้ทราบว่าหากต้องการภาพถ่าย หรือ ต้องการโพสรูปงานแต่งงานลงในโซเชียล และ ใส่แฮทแทคของงาน ก็จะสามารถเชื่อมไปยังภาพถ่ายอื่นๆภายในงานได้ง่าย เป็นการรวมหมวดหมู่รูปภาพที่เวิร์คมากๆเลยละค่ะ
9. QR Code การ์ดแต่งงาน AR
สิ่งสุดท้าย สำหรับบ่าวสาว ที่ทำ การ์ดแต่งงาน AR สิ่งที่สำคัญ และ จำเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ คิวอาร์โค้ดค่ะ เพราะหากไม่มีคิวอาร์โค้ดแขก ก็จะไม่สามารถนำโทรศัพท์มือถือสแกน เพื่อรับชมเนื้อหาวีดีโอของคู่บ่าวสาวได้ค่ะ และ ก่อนที่จะ ส่งมอบการ์ดให้แขก ของเราบ่าวสาวอย่าลืม ที่จะทดลองสแกน ด้วยมือถือหลาย ๆ รุ่นด้วยนะคะ ส่วนนี้ต้องเช็คให้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 9 สิ่งที่ควรมีใน การ์ดแต่งงาน ซึ่งมานิตาแนะนำว่า คู่บ่าวสาวไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับตามนี้ ทั้งหมดนะคะ และ ไม่ต้องใส่ครบทั้ง 9 หัวข้อก็ได้ ให้พิจารณาเลือกหัวข้อที่สำคัญ ๆ และ เหมาะกับ การ์ดแต่งงาน ของตนเองที่ตั้งใจจะนำเสนอ หรือ หากคู่บ่าวสาวคู่ไหนต้องการผู้ช่วยมืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำ และ ให้บริการเนรมิต การ์ดแต่งงาน ที่ตรงใจคุณที่สุดแบบครบวงจร ติดต่อสอบถามทีมงานมานิตามาได้เลยค่ะ