เส้นทางการเดินทางของมานิตาเวดดิ้ง

2012 : YEAR OF BEGINNING

ช่วงพฤษภาคมของปี 2012 ผู้ก่อตั้งมานิตา คุณโอ๋ และคุณนิวได้ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่เพื่อมาเป็นช่างภาพอิสระด้วยกัน ด้วยเห็นผลที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพเป็นอย่างมากและไม่อาจที่จะหยุดคิดที่จะทำความฝันนี้ได้ ซึ่งตอนนั้นที่บ้านทั้งสองฝ่ายก็คัดค้านเนื่องจากงานช่างภาพดูเหมือนจะเป็นงานที่ไม่มั่นคง

…ใครจะรู้ว่าการตัดสินใจตอนนั้นจะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของทั้งสองคนตลอดไป

หลังจากที่ลาออกไม่นานทั้งคู่ได้เปิดแบรด์ถ่ายรูปภาพแต่งงานที่มีชื่อว่า เพลินจิต เฮาส์ ซึ่งตอนนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะความคิดที่แตกต่างในการนำเสนอรูปแบบการถ่ายรูปที่ไม่เหมือนใครนั้นเอง ทำให้ในเวลาเพียง 3 เดือนก็สามารถที่จะสะสมเงินเก็บ 1 ล้านบาทแรกได้สำเร็จ แต่ตอนนั้นทั้งคู่ก็ยังไม่ได้มีความคิดเรื่องโรงพิมพ์ หรือทำการ์ดแต่งงานแต่อย่างใด

2013 : CONTINUE DOING THING WE LOVE

ในช่วงปี 2012 ถือได้ว่าเป็นปีที่ทั้งคู่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมีคิวงานถ่าย เดือนหนึ่งไม่ตำกว่า 15 – 20 วัน ซึ่งทำให้ต้องมีการขยายทีมงานเพื่อรองรับงานที่เพื่อมากขึ้น โดยคุณนิวต้องหยุดถ่ายรูปมาช่วยดูแลและบริการลูกค้า และคุณโอ๋ก็ทำหน้าที่ออกไปถ่ายรูป และดูแลทีมงาน

การที่ได้เป็นช่างภาพถ่ายรูปงานแต่งงานทำให้ทั้งคู่ได้มองเห็นปัญหาหลายๆอย่างสำหรับคู่แต่งงาน และก็ได้เห็นโอกาสใหม่เช่นกัน ที่จะสามารถขยายธุรกิจ และหนึ่งในนั้นก็คือการ์ดแต่งงาน นั้นเอง

ซึ่งปัญหาของการ์ดแต่งงานตอนนั้นคือ แบบการ์ดแต่งงานที่มีอยู่ในตลาดค่อนข้างจะล่าสมัยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และมีราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากตลาดการ์ดแต่งงานส่วนใหญ่จะถูกผูกขาดโดยเจ้าของธุรกิจสมัยก่อนซึ่งไม่ได้เข้าใจความต้องการของคนสมัยปัจจุบัน>

ซึ่งทั้งคุณโอ๋และคุณนิวเข้าใจในจุดนี้ดีเลยเริ่มที่จะศึกษาการทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากที่ไม่มีพิ้นฐานทางด้านนี้เลย และประกอบกับการทำธุรกิจโรงพิมพ์จำเป็นต้องใช้เงินเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูงจึงทำให้ในปี 2013 ยังไม่สามารถที่จะทำธุรกิจนี้ได้

2014 : LEARNING AND SEEKING

มีสุภาษิตจีนกล่าวไว้ “การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใบที่เรายังคงต้องการแสวงความสำเร็จ”

และเมื่อสะสมความรู้และเงินทุนที่ไว้ได้ตามเป้าหมาย ในที่สุดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 บริษัท เปเปอร์ริสต้า จำกัด ก็ถือกำเนิดขึ้นภายในบ้านหลังเล็กๆที่คุณโอ๋กับคุณนิวอาศัยอยู่ เพื่อดำเนินธุรกิจสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับการ์ดแต่งงานโดยเฉพาะ โดยได้ใช้พื้นที่ในโรงจอดรถต่อเติมเพื่อลงเครื่องจักรสำหรับงานพิมพ์ และหลังจากนั้นไม่กี่เดือนถนัดมาก็ได้เปิดแบรนด์การ์ดแต่งงาน

ที่มีชื่อว่า มานิตา เวดดิ้ง

ซึ่งทำให้วงการการ์ดแต่งงานในประเทศไทยเปลี่ยนไปตลอดกาล และนี้คือจุดเริ่มต้นของมานิตาเวดดิ้งนั้นเอง

2015 : GLOWING WITH PASSION

ด้วยสไตล์การ์ดแต่งงานและรูปแบบที่แตกต่างจาก การ์ดแต่งงานทั่วไปในตลาดช่วงเวลานั้น และความเข้าใจในเรื่องงานออกแบบทำให้เวลาเพียงไม่นานแบรนด์มานิตา ก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากปากต่อปาก จากเหนือจรดใต้ จากในประเทศสู่ต่างประเทศ ทำให้ในช่วงเวลานั้นแบรนด์มานิตามียอดผลิตการ์ดแต่งงานไม่ตำกว่า 50,000 ใบ ต่อเดือน 

ในช่วงปลายปี 2015 การ์ดแต่งงานแบรนด์มานิตายังได้ถูกเสนอชื่อ และได้รับรางวัลประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติถึง 2 รางวัลในระดับเหรียญทองและเงิน ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแตกต่างและคุณภาพงานพิมพ์ของแบรนด์มานิตานั้นเอง

2016 : EXPANSION AND LEADING

เมื่อเวลาผ่านไป คุณโอ๋และคุณนิวก็ได้เห็นปัญหาใมากขึ้นว่าเวลาสั่งการ์ดแต่งงานในตอนนั้น ลูกค้าจำเป็นต้องรอเป็นเดือนกว่าที่จะได้รับสินค้า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเตรียมตัวไม่ทัน จึงได้ขยายกำลังการผลิตและทีม จนทำให้เราสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตและจัดส่งลูกค้าได้ภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการการ์ดแต่งงาน และทำให้คู่แข่งทุกคนต้องปรับตัว

ภายในสิ้นปี 2016 ครอบครัวมานิตาก็ได้เติบโตเป็น 20 ชีวิต ในช่วงเวลา 2 ปี เพื่อรองรับงานบริการและงานผลิตในกับลูกค้า ทำให้มีกำลังการผลิตการ์ดแต่งงานเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ใบต่อเดือน

2017 : TURN CRISIS TO OPPORTUNITES

ในช่วงต้นปี 2017 ถึงได้ว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา และส่งผลกระทบถึงตลาดแต่งงานเช่นกัน มานิตาก็ไม่ได้หยุดนิ่งได้พยายามคิดผลิตภัณฑ์ในงานแต่งงานใหม่ที่ไม่เคยมีในไทยมาก่อนเช่น เมนูอาหาร ป้ายโต๊ะ ภาพพิมพ์แคนวาส เป็นต้น ทำให้ครึ่งปีหลังบริษัทได้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง  จากการผลิตสินค้าชนิดใหม่ โดยมียอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้นกว่า 40 % ของปีก่อนนั้น

และในช่วงปลายปี การ์ดแต่งงานแบรนด์มานิตายังได้ถูกเสนอชื่อ และได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ ในหมวดการ์ดเชิญ (invitation) จากผู้เข้าส่งร่วมประกวดผลงานทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการตอกย้ำอีกครั้งถึงความแตกต่างและคุณภาพงานพิมพ์ของแบรนด์มานิตา

2022 : REBIRTH

ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่หลายๆธุรกิจต้องปรับตัวเนื่องจากผลกระทบจากโควิท-19 มานิตาเองก็เช่นกัน เราพยายามอย่างหนักในการต้องสู้กับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

เมื่อเราได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเราสามารถที่จะต่อสู้และผ่านไปได้ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมุ่งขยายธุรกิจการ์ดแต่งงานของเราต่อไป ในปีนี้มานิตาได้ปรับโฉมร้านการ์ดแต่งงานใหม่ที่สาขา แจ้งวัฒนะ ให้มีพื้นที่ ที่ใหญ่ขึ้นและเป็นโชว์รูมการ์ดแต่งงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยพื้นที่จัดแสดงสินค้ากว่า 150 ตรม.