งานแต่งงานเป็นโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต มานิตาเชื่อว่าคู่รักทุกคู่ต่างมีภาพงานแต่งงานในฝัน ที่อยากจะเนรมิตให้สวยงาม โรแมนติก ได้สวมชุดแต่งงานที่สวยหล่อที่สุด ยืนถ่ายรูปกับแบล็คดรอปและมุม Photo gallery ในธีมที่วาดฝันไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนมาพร้อมกับ งบประมาณงานแต่งงาน ที่ยิ่งใหญ่ ที่ต้องผ่านการคิดคำนวณและวางแผนมาเป็นอย่างดี ดังนั้นมานิตาขอเป็นผู้ช่วยว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวของเรา ในการกำหนดและลิสต์รายละเอียด งบประมาณงานแต่งงาน ที่เหมาะสม พร้อมเคล็ดลับสำคัญเพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่าย จะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่า
วิธีกำหนดงบประมาณจัดงานแต่งงาน
เพื่อให้คู่บ่าวสาวทุกท่านสามารถตั้งงบประมาณจัดงานแต่งงานที่เหมาะสมกับ Budget ที่เรามีและสามารถควบคุมรายจ่ายไม่ให้บานปลาย มานิตาจึงขอแนะนำให้คู่บ่าวสาวทุกคู่ เริ่มต้นวางแผนจัดงานด้วยการกำหนดงบประมาณจัดงานแต่งงาน โดยการสำรวจความพร้อมของงบประมาณที่คุณมีและคาดว่าจะได้รับเพื่อให้คุณสามารถวางแผนจัดสรรเงินเก็บได้ล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยให้คู่รักสามารถจัดงานแต่งงานในฝันได้แบบไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องการเงินด้วยค่ะ
1. สำรวจเงินในบัญชีของคู่บ่าวสาว
ขั้นตอนแรกในการสร้าง งบประมาณจัดงานแต่งงาน คือการพึ่งเงินเก็บของคู่บ่าวสาว มานิตาขอเสนอให้ทุกคู่เปิดอกคุยกันถึงจำนวนเงินที่มีและรายได้ต่อเดือนที่จะสามารถเก็บสะสมและนำมาใช้จัดงานแต่งงานได้อย่างไม่เดือดร้อน เพื่อตั้ง งบประมาณจัดงานแต่งงาน ที่เหมาะสมค่ะ
2. ประเมินจำนวนแขก/จำนวนซอง
แหล่งเงินทุนแหล่งที่สอง อาจได้มาจากซองช่วยเหลืองานแต่งงานจากแขกผู้ร่วมงาน ดังนั้นคู่บ่าวสาวจึงต้องคิดให้ดีก่อนว่างานของเราสามารถเชิญแขกได้กี่คน แล้วประมาณว่าแขกแต่ละคนน่าจะให้ซองช่วยเหลือเราขั้นต่ำสุดประมาณเท่าไหร่ จากนั้นคูณกันออกมาก็จะได้เป็นจำนวนเงินที่เราน่าจะได้รับจากงานแต่งนั่นเองค่ะ
3. เงินช่วยเหลือจากครอบครัว
บางครอบครัว คุณพ่อคุณแม่อาจมีเงินช่วยเหลือสำหรับจัดงานแต่งงาน ซึ่งมานิตาแนะนำให้คู่บ่าวสาวทุกคู่ปรึกษากับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ในเรื่องของรูปแบบการจัดงานแต่งงานที่เป็นไปตาม Budget ที่คุณมี ซึ่งนอกจากจะได้คำแนะนำแล้ว อาจได้เงินช่วยเหลือจากครอบครัวและญาติในวันรับไหว้อีกด้วยนะคะ เพราะงานแต่งงานคือ การสร้างความสุขร่วมกันของสองครอบครัว ดังนั้นงบมากหรือน้อยก็จัดงานแต่งงานได้ ถ้าคุณพร้อม!
Credit: Freepik
รายละเอียดงบประมาณจัดงานแต่งงาน
เพื่อให้คู่บ่าวสาวทุกคู่สามารถจัดสรร งบประมาณจัดงานแต่งงาน ที่เหมาะสมกับ Budget ที่เรามีและสามารถควบคุมรายจ่ายไม่ให้บานปลาย มานิตาจึงขอแนะนำให้คู่บ่าวสาวทุกท่าน ทำรายละเอียด งบประมาณจัดงานแต่งงาน โดยตั้งงบประมาณสำหรับไอเทมสำคัญ เช่น สถานที่ , การประดับตกแต่ง , ชุดแต่งงาน , ดนตรี , ช่างภาพ และอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดสรรงบประมาณได้ว่าคุณควรจะมีงบประมาณกี่บาท ไว้ใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง และเพื่อให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้น มานิตาจึงขอยกตัวอย่างการจัดตั้งงบประมาณสำหรับงานแต่งงาน ดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมงาน (30%)
- ค่าการ์ดแต่งงานและของชำร่วย
การ์ดแต่งงานเป็นเสมือนตัวแทนของคู่บ่าวสาว และของชำร่วยก็เปรียบได้กับคำขอบคุณแทนใจ ดังนั้น คู่บ่าวสาวจึงต้องพิถีพิถันในการเลือกเสียหน่อย เพื่อสร้างความประทับใจให้แขกคนสำคัญค่ะ
- ค่าช่างภาพและช่างวีดีโอ
งานแต่งงานครั้งหนึ่งในชีวิตของใครหลาย ๆ คน การเลือกทีมงานที่มีคุณภาพในงบประมาณที่สมเหตุสมผล เพื่อเก็บภาพประทับใจไว้ตลอดไปเป็นสิ่งที่จำเป็น เลือกผลงานที่ตรงใจคู่ของเรามากที่สุดแล้วลุยได้เลย
- ค่าพิธีกรและนายพิธีภายในงาน
หากงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวมีแขกผู้ร่วมงานมากกว่า 300 ท่าน มานิตาแนะนำให้คุณเผื่องบประมาณสำหรับจ้างพิธีกรและนายพิธีมืออาชีพ เพื่อให้งานถูกจัดออกมาได้อย่างเพอร์เฟค ตรงตามกำหนดการต่าง ๆ ซึ่งอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่ได้ผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอนค่ะ
- ค่าออแกไนซ์และเวดดิ้งแพลนเนอร์
หากคู่บ่าวสาวมีงบประมาณเพียงพอสำหรับจ้างออแกไนซ์และเวดดิ้งแพลนเนอร์ มานิตาแนะนำให้คุณเลือกและเปรียบเทียบหลาย ๆ เจ้า โดยต้องไม่ลืมพิจารณาทั้งผลงานที่ผ่านมาและคำรีวิวจากคู่บ่าวสาวรุ่นพี่ เพื่อให้ได้ผู้ดูแลประสานงานแต่งงานที่ตรงใจคู่บ่าวสาวที่สุดนะคะ
2. ค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาว (20%)
มานิตาเชื่อว่าเจ้าสาวทุกคนอยากสวมใส่ชุดแต่งงานที่สวยและมีคุณภาพที่สุดในงานแต่งงาน แต่นั่นย่อมแลกมาด้วย Budget ที่สูงเช่นกัน ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำคุณเจ้าสาวให้เลือกชุดแต่งงานที่เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้โดยพิจารณาเลือกและเปรียบเทียบหลาย ๆ ร้าน เพื่อให้ได้ชุดแต่งงานที่เพอร์เฟค คุ้มค่า และตรงความต้องการเรามากที่สุด
การถ่ายพรีเวดดิ้งและ Presentation อาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับคู่บ่าวสาวทุกคู่ แต่เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่มีไอเดียจัดแกลเลอรีภาพคู่บ่าวสาวในงานและใช้ Presentation เป็นตัวเปิดพิธีการ ดังนั้นหากคุณมีแพลนจัดงานแต่งงานในรูปแบบนี้ อย่าลืมเผื่องบประมาณสำหรับการถ่ายพรีเวดดิ้งและ Presentation ไว้ด้วยนะคะ
สำหรับเจ้าสาวของมานิตาที่ต้องสวยที่สุดในวันแต่งงาน ค่าช่างแต่งหน้าและทำผมถือเป็นอีกหนึ่งลิสต์สำคัญที่ต้องตั้งงบประมาณไว้ อย่างไรก็ตาม มานิตาไม่อยากให้เจ้าสาวทุ่มงบประมาณกับส่วนนี้มากเกินไป เพราะช่างแต่งหน้าที่ดีไม่จำเป็นต้องราคาแพงเสมอไป แต่ให้เลือกช่างที่แต่งในสไตล์ที่เราชอบและลองพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อนที่จะตกลงจองคิวช่างนะคะ
Credit: Freepik
3. ค่าใช้จ่ายสำหรับสถานที่ (50%)
สำหรับงานแต่งงาน ที่มีแขกเกินกว่า 200 ท่าน ค่าสถานที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงาน เพราะต้องสามารถรองรับจำนวนแขกคนสำคัญได้และต้องมีทำเลที่สะดวกต่อการเข้าถึง รวมถึงต้องมีที่จอดรถเพียงพอ ดังนั้นคู่บ่าวสาวจึงต้องทำการบ้านในการเตรียมงบประมาณในส่วนนี้มากหน่อยนะคะ
สถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานต้องมาพร้อมกับการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับการจัดเลี้ยงแขกในวันงาน ซึ่งคู่บ่าวสาวสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการโดยตรงกับสถานที่หรือเลือกนำเข้าอาหารและเครื่องดื่มจากข้างนอก ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีค่านำเข้าด้วย ดังนั้นคู่บ่าวสาวอย่าลืมทำการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั้ง 2 รูปแบบก่อนการตัดสินใจนะคะ
หากคู่บ่าวสาวเลือกจัดงานแต่งงานในโรงแรมหรือสถานที่ให้บริการจัดงานแต่งงานที่ครบวงจร อาจสบายใจเพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการประดับตกแต่งสถานที่ด้วยการซื้อแพ็กเกจจัดงานแบบครบวงจร แต่หากคู่บ่าวสาวเลือกนำเข้าทีมออแกไนซ์ที่ทำหน้าที่ประดับตกแต่งเอง อาจต้องเปรียบเทียบราคา คุณภาพและค่านำเข้าเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการบ้านสำคัญที่คู่บ่าวสาวจะต้องเตรียมตัวคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าค่ะ
Credit: Freepik
ตัวอย่างงบประมาณงานแต่งงาน
อ้างอิงจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยการจัดงานแต่งงานในปี 2022-2023 สำหรับแขก 150 คน งบประมาณ 350,000 บาท เราขอนำเสนอโครงร่างคร่าว ๆ สำหรับการร่างแผนการแจกแจงงบประมาณงานแต่งงาน ซึ่งคู่บ่าวสาวสามารถปรับเปลี่ยนตัวเลขได้ตามลิสต์ไอเทมที่สำคัญและตามรูปแบบงานที่ตนเองต้องการได้ค่ะ
งบประมาณแต่งงาน | งบประมาณทั้งหมด | ค่าใช้จ่าย (บาท) |
---|---|---|
ค่าบริการเช่าสถานที่ | 5% | 17,500 |
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม | 30% | 105,000 |
ค่าบริการประดับตกแต่งและอุปกรณ์สำคัญในพิธี | 15% | 52,500 |
ค่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว | 10% | 35,000 |
ค่าถ่ายพรีเวดดิ้งและ Presentation | 5% | 17,500 |
ค่าช่างแต่งหน้าและทำผม | 5% | 17,500 |
ค่าการ์ดแต่งงานและของชำร่วย | 2% | 7,000 |
ค่าช่างภาพและช่างวีดีโอ | 10% | 35,000 |
ค่าพิธีกรและนายพิธีภายในงาน | 3% | 10,500 |
ค่าออแกไนซ์และเวดดิ้งแพลนเนอร์ | 15% | 52,500 |
เห็นไหมคะว่า เมื่อคู่บ่าวสาวกำหนด งบประมาณจัดงานแต่งงาน ที่เหมาะสมได้แล้ว ก็จะสามารถลิสต์รายละเอียดการจัดสรรงบประมาณได้อย่างลงตัว จากนั้นค่อยจัดลำดับความสำคัญถึงสิ่งที่จำเป็น/สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีในงานแต่งงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจัดงานแต่งงานเองภายใต้งบประมาณที่วางแผนเตรียมไว้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องกังวลว่างบจะบานปลายและกระทบเรื่องการเงินในอนาคตด้วยค่ะ