วันนี้ Manita ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวป้ายแดง งานแต่งคู่รักทาสแมว ที่มีน้องแมวเป็นสื่อกลางและโซ่คล้องใจ จนทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจทำฟาร์มแมวด้วยกัน เพราะด้วยความรักและผูกพันธ์ของทั้งสองที่มีจุดเริ่มต้นจากน้องแมวที่น่ารัก จนเมื่อทั้งคู่ตกลงใจที่จะแต่งงานจึงเลือกเอา “น้องแมว” มาเป็น “ตัวหลักในการ จัดงานแต่ง” เสียเลย ซึ่งวันนี้ทั้งคู่ได้มาเปิดใจบอกเล่าประสบการณ์และรีวิวงานแต่ง พร้อมนำเสนอไอเดียการจัด งานแต่งคู่รักทาสแมว เก๋ ๆ เพื่อให้คู่รักคู่อื่น ๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน จะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปอ่านบทสัมภาษณ์ของทั้งคู่กันค่ะ
คำบอกเล่า...ในการวางแผนจัดงานแต่งงาน
คุณโต๊ด (เจ้าบ่าว) และคุณตูน (เจ้าสาว) ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเรื่องใหม่มากๆสำหรับเราสองคน” เพราะทั้งคู่ไม่เคย จัดงานแต่ง เลย จึงไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหน โดยทั้งคู่กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากที่คิดว่าเราสองคนชอบอะไรเหมือน ๆ กัน แต่พอได้มา จัดงานแต่ง งาน ถึงได้รู้ว่า มีสิ่งที่เราคิดไม่ตรงกันหลายเรื่อง เช่น พวกธีมสี สไตล์การตกแต่งงานแต่งงาน สถานที่ต่าง ๆ ” ซึ่งทางคุณโต๊ดผู้เป็นเจ้าบ่าวได้หาทางรับมือเรื่องนี้ไว้แล้ว ผ่านคำบอกเล่าจากเพื่อน ๆ ที่แนะนำว่าให้คุณโต๊ดช่วยเลือกสิ่งต่าง ๆ ร่วมกับเจ้าสาว เพราะถือว่าเป็นการแสดงออกในการมีส่วนร่วม แทนที่จะให้คุณตูนเป็นผู้ตัดสินใจอยู่ฝ่ายเดียว โดยคุณโต๊ดใช้วิธีการพูดคุยกับคุณตูนบ่อย ๆ ว่าคุณตูนชอบหรือไม่ชอบส่วนไหน อยากเปลี่ยนแปลงอะไร และหาจุดกึ่งกลางระหว่างทั้งคู่ค่ะ
คุณโต๊ดกล่าวต่อไปอีกว่า “พวกเรามีสิ่งที่ชอบเหมือนกันอยู่อย่างนึง คือ น้องแมว ซึ่งทั้งคู่ได้ทำฟาร์มแมวร่วมกัน จึงมีความตั้งใจที่จะ จัดงานแต่ง โดยใช้น้องแมวเป็นตัวหลักในการตกแต่งให้สมกับเป็นคู่รักทาสแมวเสียเลย
ปัญหาและอุปสรรคที่พบเจอ?
คุณโต๊ดและคุณตูนเป็นคู่บ่าวสาวมือใหม่ ที่แน่นอนว่าจะต้องพบเจอปัญหาและอุปสรรคในการ จัดงานแต่ง เป็นแน่ โดยทั้งคู่กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ในการจัดงานของทั้งคู่มีอยู่สองเรื่อง คือ เรื่องจำนวนแขกผู้ร่วมงานและเรื่องเวลาในการจัดงาน
โดยเรื่องแรก คือ เรื่องจำนวนแขกผู้ร่วมงาน คุณตูนได้กล่าวว่า “กังวลในเรื่องการทำการ์ดให้เพียงพอสำหรับแขก เพราะผู้ใหญ่ต้องการเชิญแขกเยอะ ๆ ทำให้มีปัญหาในเรื่องการกำหนดจำนวนแขกผู้ร่วมงาน เพราะต้องรอคอนเฟิร์มจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน”
คุณตูนกล่าวต่อไปอีกว่า “แต่ปัญหาใหญ่ที่สุด ก็คือเรื่องเวลาในการจัดงาน” เพราะคุณโต๊ดและคุณตูนเลือก จัดงานแต่ง ในช่วงบ่าย-เย็น แขกก็จะมีความสงสัยทำไมไม่แต่งเช้าเหมือนคู่อื่น ๆ เพราะเหมือนการทำบุญตักบาตรในตอนเช้าเป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่ที่ดี คุณตูนกล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งคุณโต๊ดและคุณตูนได้อธิบายต่อไปว่า เหตุผลในการเลือกจัดงานช่วงบ่ายเพราะให้ความสำคัญกับแขกที่เป็นญาติผู้ใหญ่ เนื่องจากหลาย ๆ ท่านอยู่ต่างจังหวัด การเริ่มต้นพิธีในช่วงบ่ายจะส่งผลดีต่อพวกท่านมากกว่า ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่า ฤกษ์ที่ดี ก็คือฤกษ์สะดวก นั่นเอง และอีกเหตุผลที่ทั้งคู่อยากจัดงานช่วงบ่ายเพราะให้ความสำคัญกับความต่อเนื่องของงาน โดยจัดงานพิธีในช่วงบ่ายต่อเนื่องด้วยงานเลี้ยงฉลองในช่วงเย็นจนถึงค่ำไปเลย ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ แขกผู้ใหญ่ทุกท่านก็เข้าใจ เพราะทั้งคู่ต้องการ จัดงานแต่ง งานที่แขกผู้ร่วมงานทุกท่านรู้สึกมีความสุขและสนุกตลอดทั้งงาน
การเลือกการ์ดแต่งงาน?
คุณตูน เจ้าสาวของเราได้กล่าวว่า “ตนเป็นคนซีเรียสในเรื่องสไตล์ของการ์ด” ซึ่งทั้งคู่อยากได้สไตล์ของการ์ดแต่งงานที่ดูทันสมัย เรียบแต่ดูดี ทั้งคู่จึงทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลในเว็บไซต์ต่าง ๆ และ Pinterest จนสุดท้ายได้สไตล์ที่ชอบด้วยกันทั้งคู่ คือ การมีดอกไม้จริงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางการ์ด เพราะจะช่วยให้การ์ดดูมีชีวิต คุณตูนกล่าว
เมื่อได้สไตล์ที่ชื่นชอบแล้ว คุณโต๊ดคุณตูนจึงหาร้านที่สามารถทำตามแบบที่ต้องการได้ โดยทั้งคู่ได้ตัดสินใจทำการ์ดแต่งงานที่ Manita “การ์ดถูกพิมพ์ออกมาได้ตรงใจ 100%” คุณตูนกล่าวในบทสัมภาษณ์ในวันที่ทั้งคู่ได้รับการ์ดที่พิมพ์เสร็จ คุณตูนได้กล่าวต่อไปอีกว่า “ทางร้านเป็นคนดีไซน์ดอกไม้ที่วางอยู่กึ่งกลางของตัวการ์ด พร้อมโลโก้น้องแมวให้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการ์ดได้อย่างลงตัว”
และนอกจากการ์ดแต่งงานแล้ว ทั้งคู่ได้เลือกใช้บริการสั่งทำ ของชำร่วย ที่ Manita ซึ่งทั้งคู่ตั้งใจไว้ว่า อยากได้ของชำร่วยในคอนเซ็ปต์ที่ใช้งานได้จริงและใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย ดังนั้น ขาตั้งมือถือที่พิมพ์โลโก้ รูปภาพและอักษรได้อย่างมีเอกลักษณ์จึงเป็นของชำร่วยที่ทั้งคู่เลือก “เราได้รับคำตอบรับอย่างดีเกี่ยวกับของชำร่วย บางคนยังมาถามด้วยซ้ำว่ามีอีกไหม” คุณตูนกล่าวทิ้งท้าย
นอกจากการ์ดและของชำร่วยแล้ว คุณโต๊ดและคุณตูนยังสั่งทำภาพพรีเวดดิ้งในรูปแบบภาพแคนวาสแบบจัดเต็ม เพื่อนำไปตกแต่งในงาน ทั้งคู่กล่าวว่า “การเลือกใช้บริการที่ Manita ถือว่าเป็น One Stop Service ได้ครบจบทุกอย่างจริง ๆ”
การเลือกสิ่งของต่าง ๆ สำหรับจัดงานแต่งงาน?
คุณตูนกล่าวว่า “ในตอนที่ตกลงเรื่องแต่งงาน เราทั้งคู่โฟกัสเรื่องการ์ดแต่งงานน้อยกว่าสถานที่เสียอีก แต่เมื่อได้พูดคุยกับทาง Manita ก็ประทับใจในการบริการแบบ One Stop Service” โดยคุณโต๊ดได้กล่าวต่อไปอีกว่า “เราได้เปรียบเทียบอีก 3-4 เจ้า ในเรื่องคุณภาพงานกับราคา และก็เลือกใช้บริการที่ Manita เพราะตอบโจทย์เราทั้งคู่ได้ดีที่สุด” คุณตูนเล่าต่อว่า ทั้งคู่หากตัดสินใจใช้จ่ายอะไร จะไม่ดูแค่ว่าต้องถูกที่สุด แต่จะต้องตอบคำถามว่า “ถ้าถูกที่สุดแล้วคุณภาพเป็นอย่างไร โดยการทำการ์ด 1 ใบ เราอยากให้การ์ดเป็นเสมือนตัวแทนของทั้งคู่ที่แสดงความตั้งใจที่จะเชิญแขกมาร่วมงาน ซึ่งหากมองเพียงที่ดีไซน์อาจจะไม่รับรู้ถึงความตั้งใจนั้น แต่หากได้สัมผัสที่ตัวกระดาษที่มีคุณภาพ ที่แข็งแรงและดูดี ก็จะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่เป็นตัวแทนของเราทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี” คุณตูนกล่าว
และในช่วงก่อนจบการสัมภาษณ์ของคุณโต๊ดคุณตูน ทั้งคู่ได้เล่าให้ฟังว่า น้องสาวของคุณโต๊ดได้แต่งงานไปก่อนหน้านี้ เมื่อได้รับการ์ดเชิญก็ตกใจว่าทั้งคู่เลือกใช้บริการที่ Manita เพราะตัวน้องสาวของคุณโต๊ดเองก็เลือกใช้บริการที่นี่เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการการันตีคุณภาพว่า ที่ Manita ของเรานอกจากจะให้บริการแบบ One Stop Service ที่ใส่ใจในทุกความต้องการของคู่บ่าวสาวแล้ว เรายังตั้งใจนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อวันพิเศษของลูกค้าคนสำคัญของเราอีกด้วยค่ะ