จัดงานแต่งทันสมัย ไม่ขัดใจป๊าม๊า

เริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงแจ่มใสของคุณนนนี่ที่ให้นิยามงานแต่งงานว่า “ไม่ใช่แค่งานของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพียง 2 คน แต่เป็นงานของ 4 ฝ่าย” คือมีทั้งเจ้าสาว คุณพ่อคุณแม่เจ้าสาว เจ้าบ่าว และคุณพ่อคุณแม่เจ้าบ่าว คุณนนนี่อธิบายเพิ่มเติมว่าเพราะ ทั้งคู่เป็นพี่คนโตของบ้าน พ่อแม่ต่างฝ่ายต่างก็เป็นเจ้าภาพครั้งแรก คุณนนนี่และคุณบูมจึงต้องอัปเดตทุกขั้นตอนของการเตรียม จัดงานแต่งงาน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งฝ่ายสบายใจ

คุณนนนี่เริ่มต้นเล่าว่า เรื่องรูปแบบการจัดงานเป็นเหตุการณ์สำคัญที่คิดเห็นไม่ตรงกันระหว่างคู่บ่าวสาวและคุณพ่อคุณแม่ เพราะคุณนนนี่และคุณบูมต้องการจัดงานเลี้ยงฉลองแบบบุฟเฟ่ต์ เนื่องจากเพื่อนทั้งคู่เป็นสายปาร์ตี้ โดยคุณนนนี่เล่าว่า ตัวคุณบูมเองก็ยืนยันหนักแน่นว่าต้องจัดแบบบุฟเฟ่ต์เท่านั้น ! รู้อย่างนี้แล้วทั้งคู่ก็จับมือกันอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องต่อรองกับคุณแม่ให้ได้! แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร เพราะเมื่อคุณแม่ของคุณนนนี่เอ่ยมาว่าอยากจัดงานแบบโต๊ะจีน คุณบูมกลับตอบรับว่า “ได้ครับ” เรียกว่าเป็นเทคนิคจัดการกับผู้ใหญ่ที่ใช้ได้จริง เพราะคุณบูมกล่าวว่า “หากผู้ใหญ่สบายใจ งานแต่งงานก็จะราบรื่นยิ่งขึ้นครับ”

คุณบูมเล่าอย่างจริงจังว่า “หากยอมได้เราก็ควรยอมครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ถือเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในงาน” และคุณบูมเองก็เชื่อว่าทั้งคู่สามารถ จัดงานแต่งงาน ให้สนุกอย่างที่ต้องการได้ แม้ว่าจะต้องจัดงานเลี้ยงในรูปแบบโต๊ะจีน คุณบูมยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ผู้ใหญ่มักจะมีมุมมองที่เราเองไม่เคยเห็น ซึ่งบางทีเราก็ลืมนึกไป ซึ่งมันก็ดีนะ ใช้ได้ด้วยแหละ”

คุณนนนี่ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงที่เตรียมงานแต่งงานนั้น งง มากเพราะมีหลายส่วนต้องคิดถึง ดังนั้นถ้าเรามีคนช่วยดูแลงานแต่งให้สมบรูณ์ราบรื่น เราก็จะได้มีเวลาไปทำงานของเราได้ ดังนั้น คุณนนนี่จึงให้ความสำคัญกับการเลือกพาร์ทเนอร์ช่วยจัดงานแต่งงาน เพื่อให้ทุกส่วนราบรื่นและลงตัวมากที่สุด ตามความตั้งใจ “ครอบครัวแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ค่ะ” คุณนนนี่กล่าว

“เราวางแผนทำเช็คลิสต์ เตรียมตัว 5 เดือนล่วงหน้าเลยค่ะ ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง” คุณนนนี่เล่าอย่างอารมณ์ดีในคำถามนี้ โดยกล่าวเสริมต่อไปอีกว่า เพราะทั้งคู่มีหุ้นส่วนทางธุรกิจเป็นสถาปนิก จึงได้ปรึกษาเรื่องธีมงานแต่งที่อยากจัด ซึ่งก็ได้ไอเดียความแตกต่างที่ลงตัวของทั้งสองคนมาดีไซน์เป็นธีมงาน ทั้งตัวโลโก้ การตกแต่ง รวมทั้งการ์ดแต่งงานค่ะ

เมื่อได้ไอเดียจากเพื่อนที่เป็นสถาปนิก คุณนนนี่ก็เข้าไปดูแคตตาล็อกการ์ดต่างๆของมานิตา ซึ่งคุณนนนี่เล่าว่ามีหลายแบบให้เลือกมากกกกก จึงเป็นไอเดียเลือกให้มานิตาเป็นคนออกแบบ ซึ่งเมื่อปรึกษาคุณบูมรวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ ทุกฝ่ายก็เห็นด้วย ก็เลยได้ธีมงานและโลโก้ออกมาในรูปแบบ “เกาหลีมินิมอล ตามคอนเซ็ปต์ของเจ้าสาว” ในส่วนของการ์ด เราออกแบบให้แตกต่างแต่ลงตัวคือด้านหน้าให้เรียบง่ายสไตล์คุณบูม แต่การ์ดด้านหลังเลือกใช้สีเรนโบว์แบบยูนิคอร์นตามแบบที่เจ้าสาวชอบ “เราอยากให้การ์ดออกมาดูดีแบบพวกเราทั้งสองคนค่ะ” คุณนนนี่กล่าวอย่างภูมิใจ

“เราเลือกสมุดโน้ตเป็นของชำร่วย เพราะอยากให้คนที่ได้ไปได้ใช้ประโยชน์” คุณบูม เริ่มต้นเล่าเกี่ยวกับการเลือกของชำร่วย “เพราะปกติผมไปงานแต่งหลายๆงานและได้ของชำร่วยมา ก็จะเก็บไว้เฉยๆไม่ได้ทำประโยชน์อะไร” จึงเป็นไอเดียให้คุณบูมเลือกสมุดโน๊ต เพื่อให้ผู้รับสามารถนำไปเขียน ไปจด ไปใช้ประโยชน์ได้ คุณบูมกล่าวปิดท้าย

คุณบูมเล่าว่า ตั้งใจให้วันแต่งงานเราสองคนต้องสนุกเต็มที่ เป็นตัวของตัวเองที่สุด ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะอะไรจะเกิดก็พร้อมยอมรับหมด แต่กลายเป็นว่างานถูกจัดออกมาได้อย่างสนุกสนาน กลายเป็นงานสายปาร์ตี้ซะงั้น เพราะมีการเต้นเกาหลีมินิมอลเปิดงาน แถมด้วยเจ้าสาวหอมแก้มเจ้าบ่าวก่อน!! และมี After Party จนจบงาน “โดยรวมทุกอย่าง แฮปปี้อย่างที่ตั้งใจไว้เลยค่ะ” คุณนนนี่เล่าด้วยน้ำเสียงสดใส

คุณนนนี่เล่าด้วยน้ำเสียงหัวเราะว่า “พอแต่งงานแล้ว เปิดตัวได้เต็มที่ เป็นตัวเองได้เต็มที่เลยค่ะ” และเราก็ตั้งใจดูแลเค้า ตั้งใจร่วมกันสร้างเนื้อสร้างตัว เพราะมีอนาคตร่วมกันชัดเจนขึ้น รู้สึกว่า “มีคู่สร้างคู่สม” คุณนนนี่หันไปมองคุณบูมพร้อมเสียงหัวเราะ แต่คุณบูมช็อตฟีล ด้วยการเล่าติดอารมณ์ขันว่า “พอแต่งงานแล้วก็จะรู้สึกว่าเค้าเป็นแม่ครับ” “ล้อเล่นครับ” คุณบูมกล่าวต่อไปอีกว่า หลังแต่งงานรู้สึกว่าต้องดูแลเค้าให้ดีขึ้น รู้สึกว่าเราโตขึ้น “อยากดูแลให้ดีที่สุดครับ” คุณบูมพูดปิดท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

คุณนนนี่ เริ่มต้นแนะนำให้ว่าที่คู่บ่าวสาวจัดการกับรายละเอียดต่างๆ ง่ายๆ ด้วยการจ้างผู้ช่วยอย่างออแกไนซ์เซอร์ อย่างไรก็ตาม คู่คุณบูมคุณนนนี่ได้เลือกทำกันเอง โดยทำเช็กลิสต์ขึ้นมา ทั้งการจัดการชุดบ่าวสาว สถานที่ วันงานแต่งงาน การ์ดแต่งงานและของชำร่วย “โดยเฉพาะในเรื่องของการ์ดแต่งงานและของชำร่วย นนแนะนำให้เดินเข้ามาเลือกดูที่มานิตาได้เลย รับรองว่าหายห่วงได้เลย” โดยคุณบูมกล่าวเสริมว่า “ไอเดียจัดงานแต่งงาน ควรเริ่มวางแผนจากสิ่งที่เรามีความสุข เพื่อให้เรามีความสุขตลอดการเตรียมงานและไม่นึกเสียดายทีหลัง” “อยากให้เลือกสิ่งที่เราชอบและดูเหมาะสม และที่สำคัญต้องไม่ขัดกับผู้ใหญ่ จะทำให้งานแต่งของเราดูสมบรูณ์และมีความสุขมากๆครับ” คุณบูมกล่าวปิดท้าย

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับคำบอกเล่าพร้อมประสบการณ์ดีๆ จากคู่รักทันสมัยคุณบูมและคุณนนนี่ มานิตาคิดว่าเป็นประโยชน์สามารถเอาไปปรับใช้ได้จริงเลยนะคะ โดยเฉพาะ ไอเดียการวางแผนจัดงานแต่งงานที่ต้องดีลกับผู้ใหญ่คนสำคัญ อย่างคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่าย และหากคู่บ่าวสาวคู่ไหนยังไม่มีไอเดียในการเตรียมจัดงานแต่งงาน สามารถพาคู่ของคุณรวมทั้งคุณพ่อคุณแม่มาปรึกษาที่มานิตาได้เลยค่ะ เพราะที่มานิตาเรายืนหนึ่งและเป็นมืออาชีพด้านการเตรียมงานแต่งงานพร้อมให้คำแนะนำแบบครบวงจรเลยค่ะ