วันแต่งงาน คือวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของใครหลาย ๆ คน มานิตาเชื่อว่า คู่รักทุกคู่ต่างมีความตั้งใจที่จะให้วันแต่งงานของเราถูกจัดออกมาได้อย่างราบรื่นและสมบรูณ์แบบที่สุด และเพื่อให้คู่บ่าวสาวทุกคู่สามารถวางแผน เตรียมงานแต่งงาน และเตรียมทุกอย่างได้พร้อมที่สุด มานิตาก็มีลิสต์รายการที่ต้อง เตรียมงานแต่งงาน มาฝากคู่บ่าวสาวทุกท่านค่ะ เช็คลิสต์เหล่านี้จะมีอะไรบ้าง แล้วต้องเตรียมอะไรก่อนหลัง ลองมาดูกันเลยนะคะ
1 ปีก่อนวันแต่งงาน
ปรึกษากับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย – เคยได้ยินไหมคะว่าการแต่งงาน เปรียบเสมือนการใช้ชีวิตร่วมกันของสองครอบครัว ดังนั้น ผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายจึงมีความสำคัญมากในการแสดงความคิดเห็น มานิตาอยากให้คู่บ่าวสาวได้ใช้โอกาสนี้ในการปรึกษากับผู้ใหญ่ในเรื่องสำคัญ เช่น แต่ละครอบครัวอยากให้งานแต่งงานออกมารูปแบบไหน ทั้งในเรื่องพิธี เวลา และสถานที่ เพื่อให้งานแต่งงานถูกจัดออกมาได้ตรงใจทั้งสองครอบครัวที่สุด
หาฤกษ์ที่ใช่ – เมื่อพูดคุยพอได้ไอเดียจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแล้ว เรามาเริ่มหาฤกษ์ที่ใช่สำหรับวันแต่งงานกันค่ะ ซึ่งฤกษ์แต่งงานคู่รักอาจเลือกเองจากฤกษ์มงคล หรือปรึกษากับพระ หรือผู้ใหญ่ที่ทั้งคู่ให้ความนับถือ เมื่อได้วันแล้วให้คุณลองดูความพร้อมของทั้งฝ่าย เพราะฤกษ์ที่ดีก็คือฤกษ์ที่ทั้งสองฝ่ายสะดวก นั่นเองค่ะ
กำหนดงบประมาณและรูปแบบงาน – มานิตาแนะนำให้คู่รักตัดสินใจเลือกพิธีแต่งงานที่จะจัด เช่น พิธีแบบไทย พิธีแบบคริสต์ พิธีแบบจีน ฯลฯ ทันที่ที่ได้ฤกษ์แต่งงานเพื่อให้ง่ายต่อการหาสถานที่ จากนั้นกำหนดรูปแบบงานแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นแบบเช้าเลี้ยงเที่ยง , งานหมั้นบ่ายเลี้ยงเย็น หรือแยกงานหมั้นช่วงเช้าและเลี้ยงช่วงเย็นไปเลย รวมทั้งกำหนดรูปแบบการจัดเลี้ยงว่าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ โต๊ะจีนหรือค็อกเทล อยู่ที่ความชอบและความเหมาะสมได้เลยค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดงบประมาณด้วยนะคะ
จองสถานที่จัดงานแต่งงาน – เมื่อคู่รักตัดสินใจได้แล้วว่างานแต่งงานจะถูกจัดออกมารูปแบบไหน ขั้นต่อไปคือการหาสถานที่ที่ใช่ ทั้งสามารถจัดงานแต่งงานในพิธีที่คุณเลือกได้ รวมทั้งสามารถรองรับจำนวนแขกของเราได้เพียงพอ และที่สำคัญอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งไว้ ซึ่งคุณอาจเลือกหลาย ๆ ที่ และพิจารณาข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจ และเมื่อเลือกได้แล้วก็อย่างรอช้า ให้ติดต่อแล้วรีบจองทันทีค่ะ
ลิสต์รายชื่อแขกในงาน – เมื่อได้สถานที่จัดงานแต่งงานแล้ว และกำหนดงบประมาณในการจัดงานแล้ว คู่บ่าวสาวก็จะรู้ตอนนี้หละค่ะ ว่างานของเราสามารถเชิญแขกได้เท่าไหร่ โดยคำนวณจาก “จำนวนแขก x ราคาค่าจัดเลี้ยงต่อท่าน” จากนั้นให้คุณเริ่มลิสต์รายชื่อแขก โดยเริ่มต้นจากแขกคนสำคัญ ครอบครัว และเพื่อนทั้งสองฝ่าย ซึ่งมานิตาแนะนำให้คู่บ่าวสาวลิสต์รายชื่อแขกร่วมกันนะคะ เพื่อป้องกันการตกหล่นนั่นเองค่ะ
9 เดือนก่อนวันแต่งงาน
จองช่างหน้า ช่างผม – เจ้าสาวหลายคนอย่าชะล่าใจจนลืมจองช่างแต่งหน้า ช่างผมที่ตนเองชอบนะคะ เพราะช่างหน้า ช่างผมส่วนใหญ่มีคิวจองแน่น โดยเฉพาะในวันที่เป็นฤกษ์มงคล ดังนั้นหากเจ้าสาวมีช่างหน้า ช่างผมในใจ รีบโทรจองช่างด่วนเลยค่า
เลือกช่างภาพ/ช่างวีดีโอ – คู่บ่าวสาวที่ต้องการเก็บภาพความประทับใจในงานแต่งงานครั้งหนึ่งในชีวิต อย่าลืมรีบทำการจองช่างภาพ/ช่างวีดีโอที่ชอบ เพราะช่างเหล่านี้นอกจากจะถ่ายภาพและวีดีโอสวยในวันแต่งงานแล้ว พวกเค้ายังช่วยแนะนำการประดับตกแต่ง แสงไฟ และธีมสีที่เข้ากับคู่บ่าวสาวได้อีกด้วยค่ะ
วางแผนลำดับพิธีภายในงาน – ช่วงเวลานี้แหละค่ะ ที่คู่บ่าวสาวจะได้เริ่มวางแผนองค์ประกอบสำคัญสำหรับวันแต่งงาน ทั้งรูปแบบการประดับตกแต่ง ธีมสี และที่สำคัญคือลำดับพิธีภายในงาน เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้มีเวลาเตรียมตัวและแจ้งผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนค่ะ
จองเวดดิ้งแพลนเนอร์/ออแกไนซ์ – กรณีมีงบประมาณเพียงพอสำหรับจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์หรือออแกไนซ์ มานิตาอยากให้คู่บ่าวสาวเลือกเจ้าที่ตรงใจและจองเสียแต่เนิ่น ๆ เพราะเวดดิ้งแพลนเนอร์หรือออแกไนซ์ มีส่วนสำคัญมากในการช่วยบ่าวสาวเตรียมงานแต่งงาน ร่วมถึงในวันแต่งงานด้วยค่ะ ดังนั้นรายละเอียดต่าง ๆ ในขั้นตอนการเตรียมงาน พวกเค้าจำเป็นต้องรู้ร่วมกับคู่บ่าวสาวนะคะ
เลือกนักดนตรีและพิธีกรในงานแต่ง – อย่างที่มานิตาเคยบอกไว้ ว่าหากฤกษ์ที่คู่บ่าวสาวเลือกเป็นฤกษ์มงคลยอดนิยม นักดนตรีรวมทั้งพิธีกรในงานแต่งต่างเป็นที่จับจองของคู่บ่าวสาวหลาย ๆ คู่ ดังนั้นเลือกจองก่อนย่อมมีสิทธิ์ก่อน หรือจะเลือกใช้บริการจากเพื่อน ๆ ก็เป็นการเซฟงบประมาณที่น่าสนใจนะคะ
ทาบทามผู้ใหญ่ – หากคู่บ่าวสาวมีเถ้าแก่และประธานภายในพิธี ควรจะทำการแจ้งกำหนดการทั้งวัน เวลา และรายละเอียดต่าง ๆ เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าพวกท่านสะดวกในวันนั้น ๆ และเพื่อให้พวกท่านได้เตรียมตัวล่วงหน้านั่นเองค่ะ
6 เดือนก่อนวันแต่งงาน
ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง – 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน เป็นช่วงเวลาที่คู่บ่าวสาวยังไม่ยุ่งจนเกินไป ดังนั้นหาเวลาเพื่อถ่ายรูปพรีเวดดิ้งซะเลย จะได้ไม่ต้องกังวลในช่วงใกล้วันงาน คู่บ่าวสาวจึงสามารถยิ้มใส่กล้องได้เต็มที่แบบปราศจากความเครียดใด ๆ ค่ะ
เลือกชุดแต่งงาน – คู่บ่าวสาวควรใช้เวลา 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน เลือกชุดแต่งงานทั้งพิธีหมั้นและงานฉลองมงคลสมรส พร้อมลองสวมใส่ชุดแต่งงานนั้น ๆ เพื่อหาสไตล์ที่เหมาะกับตนเองและทำการจองเมื่อคิดว่าเจอชุดที่ใช่ โดยร้านส่วนใหญ่จะยังให้โอกาสคู่บ่าวสาวได้ปรับเปลี่ยนชุดภายในร้านได้ก่อนถึงวันฟิตติ้งค่ะ
เลือกแหวนแต่งงาน – แหวนแต่งงาน สิ่งสำคัญในงานแต่ง คู่บ่าวสาวควรใช้เวลาช่วงนี้เลือกร้านและรูปแบบแหวนที่ชอบ และหากคุณเลือกวิธีการสั่งทำแหวนยิ่งต้องรีบสั่งทำทันที เพราะแหวนแต่งงานต้องอาศัยทั้งเวลาและความประณีตในการจัดทำขึ้นนะคะ
เลือกการ์ดแต่งงาน – จากประสบการณ์ของมานิตา เราอยากแนะนำคู่บ่าวสาวให้เลือกรูปแบบการ์ดแต่งงานและพิมพ์การ์ดในช่วงเวลานี้ เพราะการ์ดแต่งงานเปรียบเสมือนตัวแทนคู่บ่าวสาว และจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้แขกได้รับรู้ถึงธีมงาน จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกเพื่อมอบให้แขกกันนะคะ
จัดทำของชำร่วย ของรับไหว้ – ของชำร่วยและของรับไหว้ที่ใช้งานแต่งงาน มานิตาแนะนำให้คู่บ่าวสาวสั่งทำล่วงหน้า ยิ่งหากสั่งทำจำนวนมากแล้ว ต้องปรึกษากับร้านที่จัดทำให้ดีว่าสามารถจัดทำได้ตรงตามเวลาที่คู่บ่าวสาวต้องการหรือไม่
4 เดือนก่อนวันแต่งงาน
จัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม – ก่อนจะเลือกว่าเมนูของกินและเครื่องดื่มที่ใช้ในงานแต่งงานมีอะไรบ้าง อย่าลืมตรวจสอบก่อนว่าแขกในงานมีใครแพ้อาหารชนิดใดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนะคะ
ถ่าย Presentation – เพราะภาพวีดีโอไม่สามารถแต่งเติมได้เท่ากับภาพถ่ายพรีเวิดดิ้ง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คู่บ่าวสาวใช้เวลาช่วงนี้ในการถ่าย Presentation เพราะจะได้ภาพที่เหมือนตัวจริงในวันงานและยังพอมีเวลาปรับแก้ก่อนถึงวันงานได้อีกด้วย
เข้าคอร์สดูแลร่างกาย – คู่บ่าวสาวอย่าลืมเตรียมงานแต่งงานจนลืมดูแลตัวเองกันนะคะ โดยเฉพาะเจ้าบ่าวเจ้าสาวของมานิตา ต้องสวยหล่อโดดเด่นที่สุดในงาน และหากไม่มีเวลาในการเตรียมตัวเองก็ซื้อคอร์สแบบเต็มที่ไปเลยค่ะ
1 เดือนก่อนวันแต่งงาน
ส่งการ์ดเชิญ – หนึ่งเดือนก่อนวันแต่งงาน คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการส่งการ์ดเชิญแขก และยิ่งแขกคนสำคัญที่คู่บ่าวสาวต้องไปเรียนเชิญด้วยตัวเอง ก็จะทำให้คุณได้ใช้เวลาช่วงนี้จัดการให้เรียบร้อยค่ะ
ฟิตติ้งชุดแต่งงาน – ช่วงเวลาที่คู่บ่าวสาวจะต้องรักษาสภาพร่างกายและหุ่นของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะช่างจะฟิตติ้งขนาดของชุดแต่งงานและไม่สามารถแก้ไขได้แล้วจนถึงวันงาน ดังนั้น อดทนกับการควบคุมอาหารอีกสักนิดนะคะ เพื่อให้วันแต่งงานคู่บ่าวสาวสวมใส่ชุดได้อย่างพอดี สวยหล่อที่สุด
สรุปความเรียบร้อยของงาน – ช่วงเวลานี้เรียกว่าโค้งสุดท้ายของการเตรียมงานแต่งงาน ที่คู่บ่าวสาวต้องสรุปและเตรียมงานให้พร้อมที่สุด เพื่อที่ว่าหลังจากนี้คู่บ่าวสาวจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อพร้อมที่สุดในวันแต่งงานนั่นเอง
1 วันก่อนวันแต่งงาน
พักผ่อนให้เต็มที่ – หนึ่งวันก่อนจะถึงวันงานจริงสิ่งสำคัญมากเลยก็คือการรับประทานอาหารให้อิ่ม และนอนพักผ่อนให้เพียงพอเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เพราะวันแต่งงานของเราอาจจะไม่มีเวลาทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงจบงาน ดังนั้นก่อนวันงานอย่าลืมพักผ่อนกันนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับขั้นตอนวางแผนเตรียมงานแต่งงานตั้งแต่ 1 ปีจนถึง 1 วันงาน ที่มานิตาได้นำเสนอพร้อมสรุปเป็น Checklist มาฝากกัน เพื่อให้ว่าที่เจ้าสาวเจ้าบ่าวป้ายแดงของเราเตรียมตัวได้อย่างพร้อมที่สุด เพราะโอกาสสำคัญไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ มานิตาเชื่อเลยว่าถ้าคู่บ่าวสาวทำทุกอย่างตามที่แพลนไว้ งานแต่งงานจะต้องถูกจัดออกมาได้เพอร์เฟกต์ตามแบบที่เราตั้งใจอย่างแน่นอนค่ะ